วิเคราะห์ประแกรมฟุตบอลประจำค่ำคืนวันอังคารที่ 1 ธันวาคม 2563

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ กลับมาเตะแล้วจ้า ต่อเนื่องกันยาว ๆ แบบไม่ต้องพัก ต้องผ่อนกันเลยทีเดียว วันนี้มีคู่ใหญ่ เลยจัดมาให้เน้น ๆ คือไหนน่าโดน คู่ไหนน่าตี มาดูกันเลยจ้า

Meball ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เอฟซี ปอร์โต้ -vs- แมนฯ ซิตี้

ผลงานที่เคยพบกัน

22/10/20 แมนฯ ซิตี้ – ปอร์โต้    3-1
23/02/12 แมนฯ ซิตี้ – ปอร์โต้     4-0
17/02/12 ปอร์โต้ – แมนฯ ซิตี้     1-2

เอฟซี ปอร์โต้

จะไม่มีมาร์โก กรูยิช ที่ติดโทษแบนหลังโดนไล่ออกในเกมกับมาร์กเซยสัปดาห์ก่อน คาดแดนกลางนัดนี้มาเตอุส อูริเบ้ จะได้จับคู่กับแซร์โจ้ โอลิเวร่า ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ขณะที่เปเป้ ปราการหลังตัวเก๋าต้องรอทดสอบความฟิต

แมนฯ ซิตี้

เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าตัวเก่ง ทำท่าว่าจะโดนดร็อปที่ปอร์โต้ เนื่องจากยังไม่มาซ้อมเนื่องจากทำใจไม่ได้ที่ดิเอโก้ มาราโดน่า เสียชีวิต ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าเป็นกาเบรียล เชซุส ขณะที่ฟิล โฟเด้น ดาวรุ่งเรือใบสีฟ้า และฮีโร่คนพังประตูให้ทีมบุกชนะโอลิมเปียกอส น่าจะมีชื่อที่ม้านั่งสำรอง แต่ริยาด มาห์เรซ ที่ทำแฮตทริกให้พวกเขาเอาชนะบอร์นมัธสวยงาม น่าจะได้ลงทำเกมต่อ

เอฟซี ปอร์โต้ (4-4-2): ออกุสติน มาร์เคซิน; วิลสัน มานาฟา, ชานแซล เอ็มเบมบา, มาล็อง ซาร์, ไซดู ซานูซี่; เฆซุส โคโรน่า, แซร์โจ้ โอลิเวร่า, มาเตอุส อูริเบ้, โอตาวิโอ; หลุยส์ ดิอาซ, มุสซ่า มาเรก้า

แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1): เอแดร์ซอน; ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, ไอเมริค ลาปอร์เต้, เจา คานเซโล่; โรดริโก้, อิลคาย กุนโดกาน; ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง; กาเบรียล เชซุส

ทรรศนะเดวิด พาRuay

แมนฯ ซิตี้ เข้ารอบแล้ว แต่ยังต้องการแต้มอยู่เพื่อการันตีแชมป์กลุ่ม นัดนี้ไปเยือนปอร์โต้ ทีมอันดับสอง ที่เกมที่ผ่านมาบุกชนะมาร์กเซยทีมบ๊วย 2-0 ทีมเรือใบสีฟ้า ในพรีเมียร์ ลีก ล่าสุดเอาชนะเบิร์นลี่ย์สวยสดงดงาม 5-0 ก่อนหน้านั้นก็น่าจะชนะโอลิมเปียกอสเกิน 1 ประตูเมื่อดูจากโอกาสสวยๆ ที่มี บอลหน้าประตูคู่แข่งนักเตะซิตี้ ประสานงานกันได้อย่างไหลลื่นรู้ใจ มาเกมนี้ก็น่าจะสร้างโอกาสสวยๆ ได้อีก เรือใบสีฟ้าที่เกมบุกกลับมาดูดีอีกครั้ง นัดนี้น่าจะมีสามแต้มกลับถิ่น

Mescore : เรือใบอัด 2-0

เรือใบกลับมาเหี้ยมอีกครั้ง

Meball ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
แอต.มาดริด -vs- บาเยิร์น มิวนิค

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

22/10/20 บาเยิร์น มิวนิค ชนะ แอต.มาดริด 4-0
07/12/16 บาเยิร์น มิวนิค ชนะ แอต.มาดริด 1-0
29/09/16 แอต.มาดริด ชนะ บาเยิร์น มิวนิค 1-0
04/05/16 บาเยิร์น มิวนิค ชนะ แอต.มาดริด 2-1
28/04/16 แอต.มาดริด ชนะ บาเยิร์น มิวนิค 1-0

แอต.มาดริด

สภาพทีมวันนี้พวกเขาไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนรายงานเข้ามาโดยพร้อมส่งตัวหลักๆลงสนามกันอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น เจา เฟลิกซ์, ยานนิค การ์ราสโก้ และ โกเก้ ยังพร้อมช่วยทีมเช่นเดิม

บาเยิร์น มิวนิค

สภาพทีมวันนี้พวกเขาจะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ก โรก้า มิดฟิลด์วัย 24 ปีชาวสเปนเนื่องจากติดโทษแบนหลังเกมกับ ซัลซ์บวร์ก โดนไล่ออกจากสนามมา ขณะที่ 11 ผู้เล่นตัวจริงก็น่าจะมีการโรเตชั่นพอสมควรหลังจากที่พวกเขาผ่านเข้าสู่รอบต่อไปเป็นที่แน่นอนแล้ว

แอต.มาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค – คีแรน ทริปเปียร์, สเตฟาน ซาวิช, โฮเซ่ ฆิมิเนซ, เรนาน โลดี้ – มาร์กอส ยอเรนเต้, โกเก้, ซาอูล ญิเกซ,ยานนิค การ์ราสโก้ – อังเคล กอร์เรอา, เจา เฟลิกซ์

บาเยิร์น มิวนิค (3-5-2) : อเล็กซานเดอร์ นูเบล ; ลูคัส เฮอร์นานเดซ, นิคลาส ซูเล่, ดาบิด อลาบา ; เซิร์ก กีนาบรี้, ฆาวี่ มาร์ติเนซ, ลีออน กอเรตซ์ก้า, คริส ริชาร์ดส์, ดัคลาส คอสต้า ; โทมัส มุลเลอร์, โจชัว เซิร์กซี

ทรรศนะเดวิด พาRuay

เจ้าถิ่น แอต.มาดริด ยังคงต้องเน้นกับเกมในวันนี้หลังผ่านมา 4 นัดพวกเขาเก็บไปได้ 5 คะแนนมีแต้มนำอันดับ 3 อย่าง โลโคโมทิฟ มอสโก อยู่เพียง 2 คะแนนเท่านั้น ส่วนทีมเยือน บาเยิร์น มิวนิค พวกเขาลอยลำผ่านเข้าสู่รอบต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังชนะมา 4 เกมรวดเก็บ 12 คะแนนเต็ม

”ตราหมี” มาแบบเน้นเต็มที่เพื่อเก็บ 3 คะแนนลุ้นเข้ารอบต่อไปให้ได้แถมพวกเขาเองก็ต้องการแก้มือ บาเยิร์น มิวนิค หลังจากที่เกมแรกบุกไปแพ้มาถึง 0-4 วันนี้เลยเชื่อว่า แอต.มาดริด มาเน้นเต็มสูบแน่และด้วยสภาพทีมของ ”เสือใต้” ที่มาโรเตชั่นพอสมควรน่าจะต้านทานความแค้นของเจ้าถิ่นไว้ไม่อยู่

ตราหมีวันนี้เพิ่งเชือดบาเลนเซียมา กำลังมั่นใจ

Mescore : เจ้าถิ่นตบ 1-0

Meball ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ลิเวอร์พูล -vs- อาแจ็กซ์

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

22/10/20 อาแจ็กซ์ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
02/08/03 อาแจ็กซ์ เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0

ลิเวอร์พูล

สภาพทีมวันนี้พวกเขายังคงนำทัพมาโดยตัวหลักๆอย่าง ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ดิเอโก้ โชต้า 3 แนวรุกกำลังสำคัญของทีมเช่นเดิม โดยแบ็คขวาวันนี้ก็น่าจะใช้บริการดาวรุ่งอย่าง เนโก วิลเลี่ยม หลัง เจมส์ มิลเนอร์ นักเตะสารพัดประโยชน์ส่อแววเจ็บเพิ่มเติมอีกหนึ่งราย

อาแจ็กซ์

สภาพทีมวันนี้พวกเขาไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษแบนให้ต้องหนักใจอะไรโดยพร้อมส่ง 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนามเช่นเดิมนำมาโดย ดาวิด เนเรส, ลาซิน่า ตราโอเร่ และ ดูซาน ทาดิช เช่นเดิม

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เนโก วิลเลี่ยม, ฟาบินโญ่, โฌแอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ้ ไวย์นัลดุม – ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ดิโอโก้ โชต้า – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

อาแจ็กซ์ (4-3-3) : อังเดร โอนาน่า – ฌอน ไคลเบอร์, เพอร์ ชูร์ส, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, นิโคลัส ตายาฟิโก้ – ยูร์เก้น เอคเคเลนคัมป์, ดาลีย์ บลินด์, ไรอัน คราเฟนแบร์ค – ดูซาน ทาดิช, ลาซิน่า ตราโอเร่, ดาวิด เนเรส

ทรรศนะเดวิด พาRuay

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ผ่านมา 4 นัดเก็บไปได้ 9 คะแนนจากผลงาน ชนะ 3 และแพ้ 1 ต้องการชัยชนะอีกเพียงนัดเดียวก็จะการันตีการผ่านเข้าสู่รอบต่อไปทันที ขณะที่ อาแจ็กซ์ พวกเขามีอยู่ 7 แต้มจากผลงาน ชนะ 2 เสมอ 1 และแพ้ 1

เจ้าบ้าน 2 เกม ล่าสุดรวมทุกรายการไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลยโดย แพ้ 1 และเสมอ 1 ทำให้วันนี้พวกเขากลับมาเน้นเต็มที่แน่นอนหลังจะได้ปักหลักลงเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ อีกครั้ง และถึงแม้จะมีตัวผู้เล่นบาดเจ็บอยู่ในลิสต์หลายรายแต่โดยรวมพวกเขาก็ยังดูเหนือกว่า อาแจ็กซ์ พอสมควร

ลิเวอร์พูล ดีกว่า การกลับมาลงเล่นใน แอนฟิลด์ อีกครั้งหลังจากที่เพิ่งแพ้มาน่าจะกระตุ้นให้พวกเขาพยายามเก็บ 3 คะแนนให้ได้เต็มที่

Mescore : หงส์ยิงขาด

นัดที่แล้วแพ้อตาลันต้ามา นัดนี้ต้องเอา
Facebook
Twitter
WhatsApp
Email

บทความที่เกี่ยวข้อง