สารบัญ
gfgdfg
Meball พรีเมียร์ลีก
ไบรท์ตันฯ -vs- ลิเวอร์พูล
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
09/07/20 ไบรท์ตันฯ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
30/11/19 ลิเวอร์พูล ชนะ ไบรท์ตันฯ 2-1
12/01/19 ไบรท์ตันฯ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
26/08/18 ลิเวอร์พูล ชนะ ไบรท์ตันฯ 1-0
13/05/18 ลิเวอร์พูล ชนะ ไบรท์ตันฯ 4-0
ไบรท์ตันฯ
ไบรท์ตันฯ ของกุนซือ เกรแฮม พ็อตเตอร์ เพิ่งจะบุกเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 ปลดล็อคหลังไร้ชัย 7 แมตช์รวดทุกรายการ สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ทาริก แลมพ์ตี้ย์ วิงแบ็คตัวหลักที่ติดโทษแบน ส่วนทางด้านของ ฟลอริน อันโดเน่ กับ อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ คือสองแข้งที่เดี้ยงอยู่เดิมทั้งคู่ คาดว่า พ็อตเตอร์ เตรียมจัดทัพในระบบ 3-4-2-1 โดยมี แดนนี่ เวลเบ็ค ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ อดัม ลัลลาน่า กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ ผนึกกำลังกันสร้างสรรค์อยู่ด้านหลัง
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังพ่าย อตาลันต้า 0-2 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง จะไร้เงา นาบี เกอิต้า, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค และ โจ โกเมซ ซึ่งเดี้ยงกันยกแพ็ค คาดว่า คล็อปป์ เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ดิโอโก้ โชต้า ยืนหน้าล่าสกอร์และใช้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสานกลางรุกคอยสร้างสรรค์โอกาสอยู่ด้านหลัง
ไบรท์ตันฯ (3-4-2-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ – อดัม เว็บสเตอร์, ลูอิส ดังค์, แดน เบิร์น – โยเอล เฟลต์มัน, เบ็น ไวท์, อีฟส์ บิสซูม่า, โซโลม่อน มาร์ช – อดัม ลัลลาน่า, เลอันโดร ทรอสซาร์ – แดนนี่ เวลเบ็ค
ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เจมส์ มิลเนอร์, ฟาบินโญ่, โฌแอล มาติป, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์จินิโอ้ ไวย์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ – ดิโอโก้ โชต้า
ทรรศนะเดวิดพา Ruay
เชื่อว่านัดนี้ ลิเวอร์พูล จะกลับมาแข็งแกร่งขึ้นหิ้งอีกครั้ง แม้ว่าล่าสุดจะพ่ายเสียหลักให้กับ อตาลันต้า 0-2 แต่บอกเลยว่าระดับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ปล่อยให้ความบอบช้ำเล่นงานลูกทีมได้นานชัวร์ อย่าลืมว่าสถิติการพบกันหลายต่อหลายครั้งก็มักจะเป็น “หงส์แดง” ที่เอาชนะ “นกนางนวล” อยู่เป็นประจำ เรียกว่าสามแต้มนอนมา ขอแค่สกอร์เป็นไปตามเป้าก็ได้เฮแล้ว เพราะฉะนั้น ลิเวอร์พูลเต็มข้อวันนี้จัดไป
Mescore : หงส์แดง ตบ 2-0
Meball ลาลีกา
เรอัล มาดริด -vs- อลาเบส
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
11/07/20 เรอัล มาดริด ชนะ อลาเบส 2-0
30/11/19 อลาเบส แพ้ เรอัล มาดริด 1-2
04/02/19 เรอัล มาดริด ชนะ อลาเบส 3-0
24/02/18 เรอัล มาดริด ชนะ อลาเบส 4-0
23/09/17 อลาเบส แพ้ เรอัล มาดริด 1-2
เรอัล มาดริด
บุกชนะอินเตอร์ มิลาน ในเกมยุโรป แต่ภาพรวมไม่สู้ดีนัก เมื่อสะกดชัยเจอครั้งเดียวในรอบ 3 นัด ส่วนความพร้อมได้ คาริม เบนเซม่า หายเจ็บกลับมาซ้อม แต่ยังไม่น่าฟิตทันนัดนี้ คาดว่า มาเรียโน่ จะรับบทบาทหน้าเป้าต่อไป ปล่อยให้ โรดริโก้, มาร์โก อเซนซิโอ้ และ เอแดน อาซาร์ ทำเกมรุกอยู่ข้างหลัง เช่นเดียวกับแนวรับยังไม่สามารถใช้บริการ เซร์คิโอ รามอส, อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า และ เอแดร์ มิลิเตา จึงต้องส่ง ราฟาเอล วาราน คุมหลังบ้านกับ นาโช่ ต่อเนื่อง
อลาเบส
ไร้พ่าย 4 เกมติดต่อกันในลีก แต่ก็เสมอติดต่อกันถึง 3 เกม ส่วนการจัดทัพจะปรับแนวรุกฝั่งขวาด้วยการส่ง อ็ดการ์ เมนเดซ ลงปักหลักแทน ริโอฆ่า โดยมี โจต้า ยืนอีกฝั่ง แต่เกมนี้มีปัญหาตรงกลาง เมื่อ เปเร่ ปอนส์, เบอร์กี้ และ มานู การ์เซีย กอดคอเจ็บยกเซ็ท ขณะที่แนวรุกคาดว่า ลูคัส เปเรซ จะลงล่าตาข่ายกับ โฆเซลู ปล่อยให้ โรดริโก้ บัตตาเกลีย และ โทมัส ปิน่า คุมกลาง ในระบบ 4-4-2
ทรรศนะเดวิดพา Ruay
5 ครั้งหลังที่ อลาเบส มาเยือนสังเวียนแห่งนี้ปรากฏว่าพ่ายออกมาเรียบวุธ เสียรวมกัน 15 เม็ด ส่วน มาดริด บุกชนะอินเตอร์ 2-0 น่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้เยอะ แถมกลับมาเล่นในบ้านเจอคู่แข่งมาตรฐานอ่อนกว่า น่าจะมองถึง 3 คะแนนไม่ยาก ดังนั้น “ราชันชุดขาว” ที่โมเมนตั้มกลับมา ผู้มาเยือนน่าจะโดนไล่ต้อนตลอด 90 นาที ดูแล้วมียิงขาด
Mescore : มาดริดกด 3 ลูก
Meball บุนเดสลีก้า
ดอร์ทมุนด์ -vs- โคโลญจน์
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
25/01/20 ดอร์ทมุนด์ ชนะ โคโลญจน์ 5-1
24/08/19 โคโลญจน์ แพ้ ดอร์ทมุนด์ 1-3
03/02/18 โคโลญจน์ แพ้ ดอร์ทมุนด์ 2-3
17/09/17 ดอร์ทมุนด์ ชนะ โคโลญจน์ 5-0
29/04/17 ดอร์ทมุนด์ เสมอ โคโลญจน์ 0-0
ดอร์ทมุนด์
สภาพทีมวันนี้พวกเขายังขาดแนวรับ 2 ตัวหลักอย่าง แดน ซากาดุ(-) และ มาร์เซล ชเมลเซอร์(-) ที่มีอาการบาดเจ็บต้องพักรักษาตัวกันต่อไป ขณะที่ตัวจริงรายอื่นๆยังพร้อมลงสนามช่วยทีมเช่นเดิม
โคโลญจน์
สภาพทีมวันนี้พวกเขาก็ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟลอเรียน เคนซ์ และ โยนาส เฮคเตอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บต้องพักรักษาตัวกันต่อไป ขณะที่ในรายของ แอนโธนี่ โมเดสเต้ ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้งว่าจะพร้อมลงบู๊วันนี้หรือไม่
ดอร์ทมุนด์ (3-4-2-1) : โรมาน เบอร์กี้ ; เอ็มเร่ ชาน, แมท ฮุมเมลส์, เอ็มเร่ ชาน ; โธมัส มูนิแยร์, จู้ด เบลลิงแฮม, เอ็กเซล วิตเซล, รัฟฟาเอล เกอร์เรโร่ ; จอดอร์น ซานโช่, จิโอวานนี่ เรย์น่า ; เออร์ลิ่ง ฮาร์แลนด์
โคโลญจน์ (4-2-3-1) : ติโม ฮอร์น ; คิงส์ลี่ เอไฮซิบู, เซบาสเตียน บอร์นัว, ราฟาเอล เซซิชอส, ยานเนส ฮอร์น ; เอลเยส ชัคไฮรี่, โดมินิค แดร็กซ์เลอร์ ; เอลวิส แร็กซ์เบคาจ, ออนดรายจ์ ดูด้า, ยาน ธิลมานน์ ; เซบาสเตียน อันแดร์สสัน
ทรรศนะเดวิดพา Ruay
เจ้าถิ่น ดอร์ทมุนด์ ผลงาน 5 นัดหลังสุดในลีก ชนะ 4 และแพ้ 1 โดยเกมเดียวที่พวกเขาแพ้ก็เป็นการแพ้ให้กับทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ขณะที่ทีมเยือน โคโลญจน์ ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในลีกไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลยโดย เสมอ 3 และแพ้ 2
ดอร์ทมุนด์ ฟอร์มกำลังเข้าฝัก เกมรุกยิงได้ถึง 8 ลูกจาก 2 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ยิ่งมาเจอ โคโลญจน์ ที่ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรมาต่อกรแบบนี้
Mescore : ดอร์ทมุนถึง 3 แน่