Meball พรีเมียร์ลีก
วูล์ฟส์ -vs- ลิเวอร์พูล
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
07/12/20 ลิเวอร์พูล ชนะ วูล์ฟส์ 4-0
24/01/20 วูล์ฟส์ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
30/12/19 ลิเวอร์พูล ชนะ วูล์ฟส์ 1-0
12/05/19 ลิเวอร์พูล ชนะ วูล์ฟส์ 2-0
08/01/19 วูล์ฟส์ ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 / เอฟเอ คัพ
วูล์ฟส์
วูล์ฟส์ ของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เพิ่งจะบุกเจ๊าจืด แอสตัน วิลล่า 0-0 ทำให้สามเกมลีกที่ผ่านมายังไม่ชนะใคร สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ยังคงไร้เงา ราอูล ฆิเมเนซ หัวหอกตัวเก่งที่เดี้ยงอยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น ส่วนพวก แฟร์นานโด มาร์ชาล กับ ดาเนียล โปเดนซ์ ต้องรอเช็คฟิตอีกครั้งว่าจะทันลงช่วยเพื่อนหรือไม่ คาดว่า เอสปิริโต้ ซานโต เตรียมจัดทัพในระบบ 3-5-2 โดยมี อดาม่า ตราโอเร่ กับ เปโดร เนโต้ ผนึกกำลังกันล่าสกอร์ในแดนหน้า
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเอาชนะ ไลป์ซิก 2-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่้มเติม นอกเสียจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ กับ โฌแอล มาติป สี่แข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า คล็อปป์ เตรียมวางหมากในระบบเดิม 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดิโอโก้ โชต้า กับ ซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่าย
วูล์ฟส์ (3-5-2) : รุย ปาตริซิโอ้ – วิลลี่ โบลี่, คอเนอร์ โคอาดี้, โรแม็ง ซาอิสส์ – เนลสัน เซเมโด้, เลอันเดอร์ เด็นด็องเคอร์, รูเบน เนเวส, เชา มูตินโญ่, จอนนี่ กาสโตร – อดาม่า ตราโอเร่, เปโดร เนโต้
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ้ ไวย์นัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดิโอโก้ โชต้า, ซาดิโอ มาเน่
ทรรศนะเดวิด พาRuay
ดูเหมือนว่าเกมล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไลป์ซิก 2-0 ทำให้กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เจอทางสว่างในการประกบคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และขยับ ฟาบินโญ่ กลับไปเล่นในตำแหน่งสุดถนัด นั่นทำให้รูปเกมดูดีขึ้นเป็นกอง ส่วนการดร็อป โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เป็นสำรองหลังมีอาการบาดเจ็บรบกวน เพื่อเปิดโอกาสให้ ดิโอโก้ โชต้า รับหน้าที่สังหารสกอร์ปะทะสังกัดเก่า น่าจะสร้างอันตรายให้กับแนวรับคู่แข่งไม่น้อย ขณะเดียวกันด้าน วูล์ฟส์ ก็อยู่ในช่วงผลงานแกว่ง หลังไร้ชัยยาว 3 หนลีกซ้อน และหนึ่งในนั้นโดน แมนฯซิตี้ สอนเชิงไป 4-1 อีกด้วย เชื่อว่าหากแมตช์นี้เปิดหน้าแลกเต็มสูบ อาจโดนจังหวะสวนสุดเฉียบของผู้มาเยือนเล่นงานแน่นอน
Mescore : “ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1 / 3-1”
Meball ลา ลีกา
บาร์เซโลน่า -vs- อูเอสก้า
ผลงานที่เคยพบกัน
04/01/21 อูเอสก้า แพ้ บาร์เซโลน่า 0-1
13/04/19 อูเอสก้า เสมอ บาร์เซโลน่า 0-0
02/09/18 บาร์เซโลน่า ชนะ อูเอสก้า 8-2
17/12/14 บาร์เซโลน่า ชนะ อูเอสก้า 8-1
04/12/14 อูเอสก้า แพ้ บาร์เซโลน่า 0-4
บาร์เซโลน่า
เตรียมยึดระบบหลัง 3 ต่อไปสำหรับบาร์ซ่า หลังจากแผนดังกล่าวพาทีมโกยแต้มต่อเนื่อง พร้อมกับวาง ลิโอเนล เมสซี่ ล่าตาข่ายกับ อุสมาน เดมเบลเล่ ส่งผลให้ อองตวน กรีซมันน์ นั่งสำรองต่อเนื่อง ส่วน อันซู ฟาติ และ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ก็ยังควงแขนรักษาอาการบาดเจ็บ ขณะที่ เคราร์ด ปิเก้ กองหลังตัวหลักหายเจ็บกลับมาซ้อม แต่ยังไม่น่าผ่านความฟิตลงช่วยทีม ก็คงได้เห็น ออสการ์ มิงกูเอซ่า, เกลมงต์ ลองเล่ต์ และ โรนัลด์ อเราโฆ่ ลงปักหลักต่อเนื่อง
อูเอสก้า
อูเอสก้า ของกุนซือ ปาเชต้า ต้องเช็คฟิต เปโดร มอสกีร่า กองกลางชาวสเปน แต่ที่วืดแน่ๆคือปราการหลังชาวอุรุกวัยอย่าง กาสตอน ซิลวา ที่น่าจะพักอีกราว 1 สัปดาห์ ขณะที่รายอื่นๆคาดว่า ปาเชต้า เตรียมส่งชุดเดิมแพ้ เซลต้า บีโก้ 3-4 ลงสนามต่อเนื่อง ด้วยระบบ 3-5-2 โดยมี ราฟา มีร์ ดาวยิงวัย 23 ปี ล่าตาข่ายกับ ดานี่ เอสกริเช่ โดยมี ดาบิด เฟร์ไรโร่, มิเกล ริโก้ และ ไฆเม่ เซโออาเน่ คุมกลาง
บาร์เซโลน่า (3-5-2) : มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น – โรนัลด์ อเราโฆ่, ออสการ์ มิงกูเอซ่า, เกลมงต์ ลองเล่ต์ – แซร์จินโญ่ เดสต์, เปดรี้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, แฟรงกี้ เดอ ยอง, จอร์ดี้ อัลบา – อุสมาน เดมเบเล่, ลิโอเนล เมสซี่
อูเอสก้า (3-5-2) : อันเดรส เฟร์นานเดซ – ฆอร์เก้ ปูลิโด้, ดิมิทริออส ซิโอบาส, ปาโบล อินซัว – ปาโบล มัฟเฟโอ, ดาบิด เฟร์ไรโร่, มิเกล ริโก้, ไฆเม่ เซโออาเน่, ฆาบี กาลัน – ดานี่ เอสกริเช่, ราฟา มีอาร์
ทรรศนะเดวิด พาRuay
กลับคืนฟอร์มเก่งช่วงปลายฤดูกาลสำหรับ บาร์เซโลน่า ที่เห็นได้ชัดคือความสม่ำเสมอ ต่างจากก่อนหน้าที่เดี๋ยวแพ้เดี๋ยวชนะ และหากวันนี้บวกเพิ่มอีก 3 แต้ม ก็จะตามจ่าฝูงแอต.มาดริด แค่ 4 คะแนน ประกอบกับพวกเขาเหลือรายการเมเจอร์ให้ลุ้นแชมป์แค่รายการเดียว เนื่องจากเพิ่งตกรอบยูซีแอล ก็คงหันมาโฟกัสเต็มที่กับบอลลีก ยิ่งเจอกับอูเอสก้า ทีมบ๊วย ถ้าทำแต้มหลุดมือต้องบอกว่าเซฮร์ไพรส์มาก อีกทั้งเกมเยือนอาคันตุกะเป้นจุดอ่อน เมื่อสะกดชัยเจอครั้งเดียวนับแต่เปิดฤดูกาล ดังนั้นควรถามว่าเจ้าบ้านยิงกี่ลูกมากกว่า ซึ่งมองจากสถานการณ์ยังเชื่อว่าบาร์ซ่า ที่กำลังเข้าฝักจะไล่ต้อนขาดลอยเกิน 2 ตุง
Mescore : บาร์เซโลน่า ชนะ 3-0
Meball โปรตุเกส
ฟามาลิเกา -vs- สปอร์ติ้ง บราก้า
ผลงานที่เคยพบกัน
03/11/20 สปอร์ติ้ง บราก้า – ฟามาลิเกา 1-0
20/06/20 ฟามาลิเกา – สปอร์ติ้ง บราก้า 0-0
04/11/19 สปอร์ติ้ง บราก้า – ฟามาลิเกา 2-2
ฟามาลิเกา
ต้องรอทดสอบความฟิตกุสตาโว่ อัสซุนเซา กองกลางตัวสำคัญ ขณะที่มานูเอล อูการ์เต้ กองกลางตัวหลักอีกตัว ติดโทษแบน นอกจากนั้นจะไม่มีเลโอนาร์โด้ คัมปาน่า กองหน้า พาทริค วิลเลี่ยม กองหลัง อิโว โรดริเกส และอิบัน ไฮเม่ กองกลาง ที่มีอาการบาดเจ็บ
คาดฟามาลิเกาจะมาในระบบ 3-5-2 แดนกลาง เปเรย์ร่า น่าจะได้ลงแทนกุสตาโว่ อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะมีการปรับเปลี่ยนมากน้อยเพียงใด หลังฟามาลิเกาปลดซิลาส และแต่งตั้งอิโว วิเอร่า เป็นกุนซือใหม่ แต่ก็คาดว่าเอริแบร์โต้ ตาวาเรส จะเล่นกองหน้าคู่กับเกเดส
บราก้า
คริสเตียน บอร์ฆา พ้นแบนกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม นูโน่ เซเกร่า น่าจะได้ลงเล่นแทนเขาต่อไปในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า อาเบล รุยซ์ ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมกับวิตอเรีย น่าจะรักษาตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าไว้ได้ต่อไป ขณะที่บรูโน่ โรดริเกส ที่ฟอร์มดีเช่นกันในนัดดังกล่าวก็น่าจะได้ลงตัวจริงอีกครั้ง หากรุย ซิลวา และโรนัลโด้ ไม่ผ่านการทดสอบความฟิตการปวดกล้ามเนื้อ ตามระบบ 3-4-3 รุยซ์จะได้ประสานงานกับลูคัส เปียซอน และริคาร์โด้ ออร์ต้า
ทรรศนะเดวิด พาRuay
ฟามาลิเกาโดนเบาวิสต้าไล่กระทุ้งนัดล่าสุดส่งผลให้ซิลาสโดนปลดจากตำแหน่งโค้ช หน้าที่กุนซือใหม่คือพาพวกเขาพลิกสถานการณ์กลับมาอยู่รอด
ด้าน สปอร์ติ้ง บราก้า เป็นฝ่ายไล่บดวิตอเรีย กิมาไรส์ และชนะไป 3-0 ในลีกตอนนี้ไม่แพ้ใครมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม และชนะถึง 7 ใน 8 นัดหลังในลีก มาเกมนี้เจอกับฟามาลิเกาที่กำลังรวน น่าจะเป็นโอกาสที่ดีของผู้มาเยือนที่จะทำผลงานชนะได้อีกครั้ง
