สารบัญ
Meball คาราบาวคัพ
สโต๊ค -vs- สเปอร์ส
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
07/04/18 สโต๊ค แพ้ สเปอร์ส 1-2
09/12/17 สเปอร์ส ชนะ สโต๊ค 5-1
26/02/17 สเปอร์ส ชนะ สโต๊ค 4-0
10/09/16 สโต๊ค แพ้ สเปอร์ส 0-4
19/04/16 สโต๊ค แพ้ สเปอร์ส 0-4
สโต๊ค
สโต๊ค ของกุนซือ ไมเคิ่ล โอนีลล์ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ แบล็คเบิร์น 1-0 ในลีกสดๆ ร้อนๆ สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม จะไร้เงา จอห์น โอบิ มิเกล, อังกุส กันน์, ลี เกรกอรี่, แซม คลูคัส, ไทรีส แคมพ์เบลล์, โจ อัลเลน กับ อดัม เดวี่ส์ เหล่าแข้งเดี้ยงที่ไม่สามารถลงเล่นได้แน่นอน คาดว่า โอนีลล์ เตรียมจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยมี สตีเว่น เฟล็ตเชอร์ ยืนหน้าล่าสกอร์และใช้ นิค พาวล์ รับจ๊อบเพลย์เมคเกอร์คอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
สเปอร์ส
สเปอร์ส ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ เพิ่งจะเปิดรังพ่ายให้กับ สเปอร์ส 0-2 ทำให้สองเกมลีกหลังสุดแพ้รวด สำหรับสภาพทีมก่อนฟาดแข้ง จะไม่มีชื่อ อีริก ลามาล่า กับ จาเฟ็ต แท็งแก็งก้า สองแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคที่ยังไม่หายดี คาดว่า มูรินโญ่ เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-3-3 โดยมี แกเร็ธ เบล, แฮร์รี่ เคน กับ สตีเว่น เบิร์กไวย์น เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก ปักหลักคุมกลางตามระเบียบ
สโต๊ค (4-2-3-1) : โจเซฟ เบอร์ซิค – นาธาน คอลลินส์, เจมส์ เชสเตอร์, แฮร์รี่ ซูตต้าร์, มอร์แกน ฟ็อกซ์ – จอร์แดน เคาซิ่นส์, จอช ทีม่อน – จาค็อบ บราวน์, นิค พาวล์, เจมส์ แม็กคลีน – สตีเว่น เฟล็ตเชอร์
สเปอร์ส (4-3-3) : โจ ฮาร์ต – แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, ดาวินซอน ซานเชซ, อีริก ไดเออร์, เบ็น เดวี่ส์ – แฮร์รี่ วิงค์ส, ปิแอร์ ฮอยเบิร์ก, ต็องกีย์ เอ็นด็อมเบเล่ – แกเร็ธ เบล, แฮร์รี่ เคน, สตีเว่น เบิร์กไวย์น
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
ต้องบอกก่อนว่าระดับขุมกำลังสำรองของ สเปอร์ส ณ เวลานี้จัดว่าเถื่อนและเอาชนะฟูลทีมของ สโต๊ค ได้แบบไร้ปัญหาแน่นอน ฉะนั้นการจัดชุดผสมโรเตชั่นลงเล่นก็คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะถล่มสกอร์ตามเป้าที่ตั้งไว้ และน่าจะขอใช้นัดนี้เก็บชัยเรียกความมั่นใจก่อนลุย “บ็อกซิ่งเดย์” ส่งท้ายปี ขณะเดียวกันเจ้าบ้าน “ช่างปั้นหม้อ” ค่อนข้างมีปัญหากับสภาพทีมที่มีผู้เล่นบาดเจ็บเพียบ แถม 3-4 ตัวมีแข้งหลักอยู่ด้วย ฉะนั้นมาตรฐานกับศักยภาพของทีมยิ่งดร็อปลงมาอีกพอสมควร เชื่อว่าคงจะต้านทานความกระหายชัยของอาคันตุกะไม่ไหว
Mescore : ไก่บุกยิง 2-0
Meball คาราบาวคัพ
เอฟเวอร์ตัน -vs- แมนฯยู
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
07/11/20 เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯยู 1-3
01/03/20 เอฟเวอร์ตัน เสมอ แมนฯยู 1-1
15/12/19 แมนฯยู เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1
21/04/19 เอฟเวอร์ตัน ชนะ แมนฯยู 4-0
28/10/18 แมนฯยู ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1
เอฟเวอร์ตัน
เอฟเวอร์ตัน ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ อาร์เซน่อล 2-1 ทำให้สามเกมลีกที่ผ่านมาคว้าชัยรวด สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก ฟาเบียน เดลฟ์, ลูก้าส์ ดีญ กับ ฌ็อง-ฟิลิปป์ ชีบาแม็ง สามแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคที่ยังไม่หายดี คาดว่า อันเชล็อตติ เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ อเล็กซ์ อิโวบี้, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน กับ ริชาร์ลิซอน เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
แมนฯยู
แมนฯยู ของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เพิ่งจะเปิดรังถล่มเอาชนะ ลีดส์ 6-2 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก มาร์กอส โรโฮ ฟูลแบ็คอาร์เจนไตน์ที่เดี้ยงอยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น คาดว่า โซลชาร์ เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ยืนหน้าล่าสกอร์กับ ฆวน มาต้า, บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสามประสานกลางรุกคอยสร้างสรรค์เกมจากแนวหลัง
เอฟเวอร์ตัน (4-2-3-1) : โรบิน โอลเซ่น, ซีมุส โคลแมน, เมสัน โฮลเกต, ไมเคิ่ล คีน, เบ็น ก็อดฟรี่ย์ – ทอม เดวี่ส์, อับดูลาย ดูกูเร่ – อเล็กซ์ อิโวบี้, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, ริชาร์ลิซอน – โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน
แมนฯยู (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อเล็กซ์ เตลเลส – เฟร็ด, ปอล ป็อกบา – ฆวน มาต้า, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
เอฟเวอร์ตัน ในบ้านตัวเองจัดว่าแข็งแกร่งยากจะล้มอยู่แล้ว ยิ่งมาพร้อมกับความมั่นใจสุดติ่ง หลังกำชัยรวด 3 นัดซ้อนและเป็นการเอาชนะ เชลซี 1-0, เลสเตอร์ 2-0 กับ อาร์เซน่อล 2-1 ซึ่งเป็นสามโจทย์หินสำหรับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ฉะนั้นการเผชิญหน้ากับ แมนฯยู ในฉบับ ลีก คัพ ก็น่าจะเป็นศึกที่พวกเขาไม่กลัวคู่แข่งเลยด้วยซ้ำไป แม้ด้าน “ปีศาจแดง” จะเพิ่งโชว์ฟอร์มเทพถล่ม ลีดส์ 6-2 มาก็ตาม แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือเกมรับเสีย 2 ประตูเป็นครั้งที่สองติดต่อกันแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้าก็โดน เชฟฯยูฯ ไล่มาจนชนะหวิวแค่ 3-2 เชื่อว่างานนี้ไม่น่าจะจบใน 90 นาที ปิศาจแดงน่าจะพาเพลิน
Mescore : ปิศาจแดงบุกยิง 2-1
Meball เซเรีย อา 2020/21
เอซี มิลาน -vs- ลาซิโอ
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
05/07/20 ลาซิโอ แพ้ เอซี มิลาน 0 – 3
04/11/19 เอซี มิลาน แพ้ ลาซิโอ 1 – 2
25/04/19 เอซี มิลาน แพ้ ลาซิโอ 0 – 1
14/04/19 เอซี มิลาน ชนะ ลาซิโอ 1 – 0
27/02/19 ลาซิโอ เสมอ เอซี มิลาน 0 – 0
เอซี มิลาน
เจ้าบ้าน ทัพ “ปีศาจแดง-ดำ” ผลงาน 5 เกมหลังสุดยังไม่แพ้ใคร ส่วนความพร้อมวันนี้พวกเขาจะไร้เงา ฟร้องค์ เคสซี่ กองกลางตัวแกร่งที่ติดโทษแบนหมดสิทธิ์ลงสนาม ส่วนแข้งเดี้ยงนอกจากหน้าเดิมๆแล้วยังเสีย อันเต้ เรบิช เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งรายด้วย เกมนี้คาดว่า สเตฟาโน่ ปิโยลี่ เทรนเนอร์วัย 55 ปี จะวางหมากในระบบ 4-2-3-1 แดนกลางน่าจะยึดตัวเดิมจากเกมที่ผ่านมา ฮาคาน ฌัลฮาโนกลู, อเล็กซิส ซาเลอมาแกร์ส และบราฮิม ดิอาซ คอยสร้างเกมสนับสนุนกองหน้าตัวเป้าอย่าง ฮาฟาเอล เลเอา (9 นัด / 3 ประตู) ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มเก่งซัดประตูในเกมล่าสุดช่วยให้มิลานบุกเชือด ซัสซัวโล่ ลงล่าตาข่ายในเกมนี้
ลาซิโอ
ด้านทีมเยือน ลาซิโอ ผลงาน 5 เกมหลังสุดในลีกเก็บชัยไปได้ 2 นัด ผลงานลุ่มๆดอนๆขาดความสม่ำเสมอเป็นอย่างมาก ด้านขุมกำลังนอกจากแข้งเดี้ยงหน้าเดิมๆแล้ว พวกเขายังเสีย มาร์โก ปาโรโล่ เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งราย แต่ข่าวดีคือจะได้ ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ กองหลังหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง แมตช์นี้คาดว่า ซิโมเน อินซากี้ จะวางแผนในระบบ 3-5-2 ตามถนัดอีกครั้งแดนกลางยังคงเป็นแกนหลังอย่าง เซอร์เก มิลินโควิช-ซาวิช และ ลุยส์ อัลเบร์โต้ คอยปั้นเกมสนับสนุน 2 หัวหอกในแดนหน้าอย่าง เฟลิเป้ ไคเซโด้ (11 นัด / 4 ประตู) และ ชิโร่ อิมโบมิเล่ (11 นัด / 8 ประตู) ลงล่าตาข่ายในเกมนี้
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
เจ้าบ้านทัพ “รอสโซเนรี่” ผลงานในรัง 5 เกมหลังสุดยังไม่แพ้ใครเกมรุกยังคงคมกริบ แต่แนวรับกลับหละหลวมพอสมควร ขณะที่ทีมเยือน ลาซิโอ ผลงานนอกบ้าน 4 เกมหลังสุดยังไม่แพ้ใครถือว่าเป็นทีมที่เล่นนนอกบ้านได้ดีมากๆ เรทราคาเปิดออกมาให้ เจ้าบ้าน ต่อ ปป(ลบสิบ) พิจารณาแล้วขอแนะนำให้อยู่ รอง ทีมเยือนดีกว่าครับ เพราะ ลาซิโอ เล่นนอกบ้านได้ดีมากๆ แถมสถิติการเจอกันในบ้านของ มิลาน 2 เกมหลังสุดก็เป็น ลาซิโอ ที่ทำได้ดีกว่าบุกมาเอาชนะไปได้ทั้ง 2 นัดอีกด้วย ดังนั้นเกมนี้เชื่อว่า ลาซิโอ จะสู้เต็มที่อย่างแน่นอน