วิเคราะห์โปรแกรมบอลประจำค่ำคืนวันที่ 12 ธันวาคม 2563

วันนี้บอลลีกหลายคู่ มีดาร์บี้แมตช์แบบบิ๊ก ๆ ด้วย เดวิด พาRuay จัดให้ไม่ผิดหวังแน่นอน สายเล่น สายลุย ไม่ต้องคุยให้เสียเวลา ตามเดวิดมาครับ รับรองว่า สบายยยยยยยยย

Meball พรีเมียร์ลีก
แมนฯยู -vs- แมนฯซิตี้

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

09/03/20 แมนฯยู ชนะ แมนฯซิตี้ 2-0
30/01/20 แมนฯซิตี้ แพ้ แมนฯยู 0-1 / ลีก คัพ
08/01/20 แมนฯยู แพ้ แมนฯซิตี้ 1-3 / ลีก คัพ
08/12/19 แมนฯซิตี้ แพ้ แมนฯยู 1-2
25/04/19 แมนฯยู แพ้ แมนฯซิตี้ 0-2

แมนฯยู

          แมนฯยู ของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เพิ่งจะพ่ายให้กับ ไลป์ซิก 2-3 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าทีมจะจบอันดับสามของกลุ่ม และหล่นไปลุยต่อในถ้วย ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก สำหรับความพร้อมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามารบกวน แต่อาจต้องลุ้นอาการของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กับ เอดินสัน คาวานี่ ก่อนใส่ชื่อลงบู๊ คาดว่า โซลชาร์ เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมี เมสัน กรีนวู้ด ยืนหน้าล่าตาข่าย และใช้ ฆวน มาต้า, บรูโน่ แฟร์นานเดส กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลัง

แมนฯซิตี้

          แมนฯซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ มาร์กเซย 3-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามารบกวน คาดว่า เป๊ป เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-2-3-1 โดยมี กาเบรียล เฮซุส ยืนหน้าล่าสกอร์ ขณะที่ เซร์กิโอ้ อากูเอโร่ ที่กลับมาฟิตได้หมาดๆ น่าจะต้องรอสแตนบายบนม้านั่งสำรองไปก่อน และใช้ ริย๊าด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นสามประสานกลางรุกคอยซัพพอร์ตอยู่ด้านหลังตามระเบียบ

แมนฯยู (4-2-3-1) : ดาบิด เด เกอา – อารอน วาน-บิสซาก้า, วิกเตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, อเล็กซ์ เตลเลส – สกอตต์ แม็กโตมิเนย์, เฟร็ด – ฆวน มาต้า, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์คัส แรชฟอร์ด – เมสัน กรีนวู้ด

แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบ็น ดิอาส, เชา คานเซโล่ – โรดริโก้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกาน – ริย๊าด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – กาเบรียล เฮซุส

ทรรศนะ เดวิด พาRuay

ต้องยอมรับว่าตอนนี้ทีมเยือน แมนฯซิตี้ มีลุ้นบุกเอาชนะได้สบาย เพราะพวกเขามาพร้อมกับฟอร์มโคตรร้อนชนะ 4 จาก 5 หนท้ายในลีกแบบไม่แพ้ใคร (เสมอ 1) และผลิตสกอร์ต่อเนื่องรวมกันทั้งสิ้น 11 ประตูเลยทีเดียว แม้ไม่มี “เอล กุน” ยืนค้ำแดนหน้า แต่ทุกขุมกำลังก็ยังโชว์ผลงานและสร้างสรรค์สกอร์กันอย่างเต็มที่ สวนทางกับ แมนฯยู ที่เพิ่งจะอกหักกลางสัปดาห์มาสดๆ ร้อนๆ ด้วยการจบที่สามของรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังพ่าย ไลป์ซิก 2-3 แถมเป็นแมตช์ที่พวกเขาจัดหนักจัดเต็ม แน่นอนว่าเรื่องสภาพความฟิตกับร่างกายเป็นรองอาคันตุกะที่เปิดรังถล่ม มาร์กเซย 3-0 อย่างไม่ต้องสงสัย บอกเลยว่า ผีเละ

Mescore : ปิศาจคาบ้าน 0-3

ปิศาจแดงกำลังอ่อนล้าทั้งใจและกาย

Meball ลา ลีกา
เรอัล มาดริด (4) -vs- แอต.มาดริด (1)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม
01/02/20 เรอัล มาดริด ชนะ แอต.มาดริด 1-0
13/01/20 เรอัล มาดริด เสมอ แอต.มาดริด 0 – 0 (เรอัล มาดริด ชนะจุดโทษ)
29/09/19 แอต.มาดริด เสมอ เรอัล มาดริด 0 – 0
09/02/19 แอต.มาดริด แพ้ เรอัล มาดริด 1 – 3
30/09/18 เรอัล มาดริด เสมอ แอต.มาดริด 0 – 0

เรอัล มาดริด

     ทะยอยได้กำลังหลักคืนทีมเกือบครบ ตอนนี้เหลือเพียง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, เอแดน อาซาร์ และ ลูก้า โยวิช ที่ยังบาดเจ็บ ส่วนในรายของ มาร์ติน โอเดการ์ด น่าจะผ่านความฟิตกลับมาลงสนามอีกครั้งโดยมี มาร์โก อเซนซิโอ้ และ คาริม เบนเซม่า เป็นสามประสานร่วมกัน ส่วน 3 กองกลางเป็น โทนี่ โครส, คาเซมิโร่ และ ลูก้า โมดริช

แอต.มาดริด

     ฝั่งอริร่วมเมืองจะได้ หลุยส์ ซัวเรซ หัวหอกอุรุกวัยหายจากโควิด-19 และฟิตพร้อมออกสตาร์ท โดยจะล่าตาข่ายกับ เจา เฟลิกซ์ ขณะที่ปราการหลังอย่าง โฆเซ่ กิเมเนซ และอีกหนึ่งกองหน้าอย่าง ดิเอโก้ คอสต้า ยังต้องพักฟิ้นอาการบาดเจ็บต่อไป ส่วนแดนกลางคาดว่าจะวาง โกเก้, ซาอูล นิเกซ และ มาร์กอส ญอเรนเต้ ประสานงานต่อไป ในระบบ 3-5-2

เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์ตัวส์ – ดานี่ การ์บาฆัล, เซร์คิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราน, เฟอร์ล็อง เมนดี้ – โทนี่ โครส, คาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช – มาร์โก อเซนซิโอ้, คาริม เบนเซม่า, มาร์ติน โอเดการ์ด

แอต.มาดริด (3-5-2) : ยาน โอบลัค – สเตฟาน ซาวิช, ฟิลิเป้, มาริโอ เอร์โมโซ – คีแรน ทริปเปียร์, โกเก้, ซาอูล นิเกซ,มาร์กอส ญอเรนเต้, ยานนิค การ์ราสโก้ – หลุยส์ ซัวเรซ, เจา เฟลิกซ์

ทรรศนะ เดวิด พาRuay

น่าจะลงเล่นด้วยความมั่นใจต่อเนื่อง หลังจากผ่านเข้ารอบยูซีแอล ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม อีกทั้งเกมลา ลีกา นัดล่าสุดเพิ่งยกพลชนะเซบีย่า ที่เก่งในบ้าน แสดงให้เห็นว่าโมเมนตั้มเริ่มกลับมา

ขณะที่แอต.มาดริด เองก็เล่นได้แข็งแกร่งทั้งเกมเหย้าและเยือน อย่างไรก็ตาม “ตราหมี” ไม่ถูกโฉลกกับสังเวียนแห่งนี้ หลังจากสะกดชัยหลับออกมาไม่ได้เลย ตลอด 9 ทริปหลัง อีกทั้ง “ชุดขาว”ทะยอยได้ตัวหลักคืนทีมเกือบครบ ภาพรวมจึงไม่น่าเป็นรองอริร่วมเมือง ดังนั้นเจ้าบ้านที่เริ่มแรงขึ้นมา บวกทางบอลข่มแอต. ราชันย์ได้เปรียบอยู่นะ

Mescore : เรอัล เฉือน 2-1

เดือดตลอดสำหรับมาดริด ดาร์บี้

Meball พรีเมียร์ลีก
เอฟเวอร์ตัน (9) -vs- เชลซี (3)

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

08/03/20 เชลซี ชนะ เอฟเวอร์ตัน 4-0
07/12/19 เอฟเวอร์ตัน ชนะ เชลซี 3-1
18/03/19 เอฟเวอร์ตัน ชนะ เชลซี 2-0
11/11/18 เชลซี เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0
23/12/17 เอฟเวอร์ตัน เสมอ เชลซี 0-0

เอฟเวอร์ตัน

          เอฟเวอร์ตัน ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ เพิ่งจะบุกเจ๊า เบิร์นลี่ย์ 1-1 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนทำศึก ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก ลูก้าส์ ดีญ, ซีมุส โคลแมน กับ ฌ็อง-ฟิลิปป์ ชีบาแม็ง สามแข้งเดี้ยงที่ไม่สามารถลงเล่นได้ทั้งหมด คาดว่า อันเชล็อตติ เตรียมจัดทัพในระบบ 3-4-3 โดยมี ฮาเมส โรดริเกวซ, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน กับ ริชาร์ลิซอน เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ตามสูตร

เชลซี

          เชลซี ของกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพิ่งจะเปิดรังเจ๊า คราสโนดาร์ 1-1 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมล่าสุด จะไร้เงา คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย กับ ฮาคิม ซิเย็ค สองแข้งเดี้ยงที่ไม่สามารถลงช่วยเพื่อนได้แน่นอน คาดว่า แลมพาร์ด เตรียมวางหมากในแผนการเล่น 4-3-3 โดยมี คริสเตียน พูลิซิช, โอลิวิเย่ร์ ชิรู์ด กับ ติโม แวร์เนอร์ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ตามระเบียบ

เอฟเวอร์ตัน (3-4-3) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – เบ็น ก็อดฟรี่ย์, เยร์รี่ มิน่า, ไมเคิ่ล คีน – ทอม เดวี่ส์, อัลลาน, อับดูลาย ดูกูเร่, อเล็กซ์ อิโวบี้ – ฮาเมส โรดริเกวซ, โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิน, ริชาร์ลิซอน

เชลซี (4-3-3) : เอดูอาร์ ม็องดี้ – รีซ เจมส์, เคิร์ต ซูม่า, ธิอาโก้ ซิลวา, เบ็น ชิลเวลล์ – มาเตโอ โควาซิช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เมสัน เม้าต์ – คริสเตียน พูลิซิช, โอลิวิเย่ร์ ชิรู์ด, ติโม แวร์เนอร์

ทรรศนะ เดวิด พาRuay

เกมนี้ขอวัดใจใส่ทีมเยือน เชลซี บุกตีหัวคว้าสามแต้มกลับออกมา เพราะพวกเขากำลังมั่นใจจัด หลังไม่แพ้ใคร 17 เกมหลังสุดทุกรายการ และกำชัยไปเหนาะๆ 10 ครั้งอีกด้วย (เสมอ 7) ส่วนเรื่องการผลิตสกอร์หายห่วงเนื่องจากซัดยับมาเรื่อย

สวนทางกับ เอฟเวอร์ตัน ที่ความมั่นใจจางหายไปพร้อมกับฟอร์มการเล่น หลังชนะเพียงคราเดียวตลอด 7 เกมลีกที่ผ่านมา และแพ้ไปถึง 4 หน (เสมอ 2) แถมโดนทะลวงแนวรับนับไม่ถ้วนกว่า 13 ตุง เฉลี่ยแล้วต้องมีอย่างน้อย 1-2 ลูกยืนพื้น ถือเป็นปัญหาใหญ่จากการไร้สองกำลังหลักในแผงหลัง จัดเชลซีให้ไวครับ

Mescore : เชลซีมีสิทธิ์ถล่ม

ชิรูด์คนฮอตของสิงห์บลู
Facebook
Twitter
WhatsApp
Email

บทความที่เกี่ยวข้อง