สารบัญ
หลังจากตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกไปนานถึง 16 ปี ด้วยความพยายามของทัพนักเตะ ลีดส์ยูไนเต็ด ได้ อีเอฟแอลแชมเปียนชิปฤดูกาล 2019–20 ทำให้ได้เลื่อนชั้นกลับมาดวลแข้งในศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี
ต้องขอปรบมือดัง ๆ ให้กับ ยูงทอง ถึงจะป็นทีมเล็ก ๆ ก็ยังสามารถที่จะกลับมาผงาดในศึกพีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง มาครั้งนี้ต้องลุ้นกันว่าหลังจากจบฤดูกาลล่าสุดจะคว้าได้ลำดับที่เท่าไหร่ แต่ก่อนนั้นแอดจะพาไปดูเส้นทางของสโมสรเล็ก ๆ ที่ไม่ธรรมดากว่าจะมาถึงลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษได้อย่างไร
กว่าจะเป็น ลีดส์ยูไนเต็ด
แต่ก่อนนั้นที่เมืองลีดส์ กีฬารักบี้จะได้รับความนิยมเสียมากกว่าฟุตบอล ต่อมาในปี 1887 ชมรมฟุตบอลเชฟฟิลด์ได้เดินทางมาสาธิตการเล่นฟุตบอลให้ผู้คนที่ลีดส์ได้ดูแต่ก็ยังไม่เป็นที่สนใจของชาวเมืองลีดส์สักเท่าไหร่ จนเมื่อทีมรักบี้ที่นิยมถูกสั่งห้ามแข่ง ทำให้เมืองและมีสภาเมืองให้การสนับสนุนตั้งทีมฟุตบอล Leeds City ซึ่งตั้งอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1904
และได้ทำเรื่องขอเป็นสมาชิกของฟุตบอลลีกอังกฤษ และได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งทีมในดิวิชั่น 2 โดยฤดูกาลแรกของลีดส์เริ่มต้นในปี 1905 – 06 แค่นัดแรก ลีดส์ก็สามารถเอาชนะทีมร่วมเมืองไปได้ 1- 0 และจบในฤดูกาลแรกไปด้วยการรั้งอยู่ในลำดับที่ 6
ก้าวต่อก้าวขึ้น ๆ ลง ๆ
ในช่วงแรกยังไม่สามารถฟอร์มทีมได้จึงทำให้ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนเมื่อประธานสโมสรฮัดเดอร์ส ฟิลด์ทาวน์ เข้ามาดูแลทีมก่อนที่จะซื้อทีมในราคา 35000 ปอนด์ เริ่มต้นเล่น ฟุตบอลในนามของ Leeds United ในฤดูกาล 1921 – 1922 จบฤดูกาลไปด้วยการรั้งท้ายตาราง จากนั้นอีก 3 ปี ด้วยความมุมานะของทีมลีดส์ก็สามารถขึ้นไปเล่นในระดับดิวิชั้น 1 ได้สำเร็จ
แต่ผลงานก็ยังไม่คงที่ยังขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ จึงทำให้ตกลงมาที่ ดิวิชั่น 2 อีกครั้ง ซึ่งพวกเขาทำผลงานเลื่อนชั้นหนึ่งปี และตกชั้น 1 ปี เมื่อ ดอน เรวี่ เข้ามาเป็นกุนซือ ได้นำวามเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาสู่ทีมอย่างมากมาย ถึงจะยากลำบาก แต่เขากลับสามารถพาทีมกลับมาเล่นใน ดิวิชั่น 1 และประสบความสำเร็จมากมาย เช่น แชมป์ดิวิชั่น 1 ครั้งแรก, แชมป์ FA CUP , แฟร์ คัพ ( ยูฟ่า คัพ ) ทำให้ ลีดส์ ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงทศวรรษที่ 70
ยุคเฟื่องฟูของ ลีดส์ ยูไนเต็ด
ในช่วงปี 1999 – 2000 ในวงการการลูกหนังไม่มีใครที่ไม่รู้จักทีมลีดส์ยูไนเต็ด เพราะเคยติดอันดับ top 5 มาแล้ว แถมยังเคยขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกมานับครั้งไม่ถ้วน ต้องขอบอกเลยว่าในสมัยนั้นเป็นทีมใหญ่ระดับเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ลิเวอร์พลู อาร์เซนอล เชลซี กันเลยทีเดียว
มีนักเตะกองหน้าที่ยิงประตูได้มากที่สุดอย่าง อลัน สมิธ หรืออย่าง มาร์ค วิดูก้า กองหน้าที่มีทักษะการยิงประตูเฉียบขาดที่สุดในสมัยนั้น เติมเต็มด้วยกองกลางที่มีทักษะโดดเด่นรจ่ายบอลแบบทะลุช่อง ส่งต่อให้กองหน้ายิงประตูอย่างง่ายดายของ ลีโบ เยอร์
ปีกซ้ายที่รวดเร็วที่สุด ที่มีผลงานการยิงประตูเทียบเท่ากับกองหน้าก็คงไม่พ้น แฮรี่ คีเวลล์ และกองหลังสัญชาติอังกฤษที่มีความเหนียว และค่าตัวแพงที่สุดในยุคนั้น อย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปิดท้ายด้วยนายทวารที่สุดเหนียว ไนเจล มาร์ติน ที่ทีมในพรีเมียร์ลีกต่างก็พากันแย่งตัวในขณะนั้น
ลีดส์เกือบล่มสลาย
เมื่อมีขึ้นก็ต้องมีลงต่อมาทีมประสบปัญหาทางการเงินถึงขนาดที่ประธานสโมสรต้องยอมขายผู้เล่นตัวเก่งออกจากทีมเช่น จิมมี ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์, โจนาธาน วู๊ดเกด, มาร์ค วิดูก้า, ลี โบว์เยอร์ ,อลัน สมิธ, อารอน เลนน่อน, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, เอียน ฮาร์ท, พอล โรบินสัน, โอลิวิเย่ต์ ดากูส์ เป็นต้น จึงทำให้เป็นเหตุต้องตกชั้นในเวลาต่อมา
ต้องบอกเลยช่วงนี้ ลีดส์ เกือบจะต้องตกอยู่ในสภาพที่ใช้คำว่า ล้มละลายอย่างสิ้นเชิง เพราะในยุคก่อนนั้นจะอยู่ในพรีเมียร์ลีกได้จะต้องมีความพร้อมและเงินอันมหาศาลแต่ลีดส์ก็ยังสามารถที่จะประคองทีมให้อยู่ในลีกของ แชมเปียนชิป ซึ่งเป็นลีก ดิวิชั่น 1ได้
การกลับสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
แอดจะพาไปดูเส้นทางกว่าที่ลีดส์กว่าจะได้กลับเข้ามายัง พรีเมียร์ลีก ต้องใช้เวลาถึง 16 ปี กันเลยทีเดียว ในช่วงต้นเป็นไปอย่างลุ่ม ๆ ดอน ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ ฟอร์มการเล่นไม่ค่อยจะคงที่เดี๋ยวตกชั้น เดี๋ยวได้เลื่อนชั้น บางทีก็พาเรางงว่าปีนี้นักรบชุดขาวสัญชาติเมืองผู้ดีฤดูกาลนี้เค้าจะรอดหรือจะร่วงนะ
- เริ่มต้นที่ฤดูกาล 2003-04 จบฤดูกาลที่ พรีเมียร์ลีก: อันดับ 19 (ตกชั้น) เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบสาม
- ต่อกันด้วยที่ฤดูกาล 2004-05 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 14 เอฟเอ คัพ: รอบสาม และ ลีก คัพ: รอบสาม
- ตามมาติด ๆ ที่ฤดูกาล 2005-06 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 5 – เข้าสู่เพลย์ออฟเลื่อนชั้น, เพลยออฟเลื่อนชั้น: รองชนะเลิศ, เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบสาม
- มาถึงฤดูกาล 2006-07 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 24 – ตกชั้นสู่ลีกวัน, เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบสาม
- ในฤดูกาล 2007-08จบฤดูกาลที่ ลีก วัน: อันดับ 5 – เข้าสู่เพลย์ออฟเลื่อนชั้น, เพลย์ออฟเลื่อนชั้น: รองชนะเลิศ, เอฟเอ คัพ: รอบสาม, ลีก คัพ: รอบสาม และจอห์นสโตนส์ เพนท์ โทรฟี่: รอบก่อนรองชนะเลิศระดับภูมิภาค
- ก้าวเข้าสู่ฤดูกาล 2008 -09 จบฤดูกาลที่ ลีก วัน: อันดับ 4 – เข้าสู่เพลย์ออฟเลื่อนชั้น, เพลย์ออฟเลื่อนชั้น: รองรองชนะเลิศ, เอฟเอ คัพ: รอบสอง, ลีก คัพ: รอบสี่ และจอห์นสโตนส์ เพนท์ โทรฟี่: รอบสองภาคเหนือ
- เข้าสู่ฤดูกาล 2009-10 จบฤดูกาลที่ ลีก วัน: รองแชมป์ (เลื่อนชั้น), เอฟเอ คัพ: รอบสี่, ลีก คัพ: รอบสาม และจอห์นสโตนส์ เพนท์ โทรฟี่: ชิงชนะเลิศภูมิภาค
- ต่อกันที่ฤดูกาล 2010-11 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 7, เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบสอง
- ในฤดูกาล 2011-12 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 14, เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบสาม
- มาถึงฤดูกาล 2012-13 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 13, เอฟเอ คัพ: รอบห้า และลีก คัพ: รอบ 8 ทีมสุดท้าย
- เข้าสู่ฤดูกาล 2013-14 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 15, เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบสาม
- ในฤดูกาลที่ 2014-15 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 15, เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบสอง
- ต่อด้วยฤดูกาล 2016-17 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 7, เอฟเอ คัพ: รอบสี่ และลีก คัพ: รอบห้า
- ในฤดูกาล 2017-18 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 13, เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบห้า
- มาถึงฤดูกาล 2018-19 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 3 (เข้าสู่เพลย์ออฟเลื่อนชั้น), เพลย์ออฟเลื่อนชั้น: รอบรองชนะเลิศ, เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบสอง
- ฤดูกาลล่าสุด 2019-20 จบฤดูกาลที่ แชมเปี้ยนชิพ: อันดับ 1 (เลื่อนชั้น), เอฟเอ คัพ: รอบสาม และลีก คัพ: รอบสอง
โอ้โห…. 16 ฤดูกาลที่ผ่านมาไม่น่าเชื่อว่าลีดส์จะผ่านเข้ามายังพรีเมียร์ลีกได้ ต้องขอบอกเลยว่าเป็นทีมที่ อึดจริง ๆ เพราะโดยตลอดที่ผ่านมานั้นประสบปัญหาต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลัก ๆ คือด้านการเงิน ปัญหาเรื่องนักเตะ
และกว่าจะได้สุดยอกกุนซือ มาร์เซโล บิเอลซา ที่ช่วยทำให้ทีมได้ อีเอฟแอลแชมเปียนชิปในฤดูกาลล่าสุด 2019–20 ที่ทำให้ลีดส์ได้เลื่อนชั้นเข้าสู่พรีเมียร์ลีกได้ ต้องขอปรบมือให้ัง ๆ กันเลยทีเดียว
สรุปส่งท้าย
จริงอยู่ที่ ลีดส์ยูไนเต็ด อาจจะถือได้ว่าเป็นทีน้องใหม่ แต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นทีมที่มีฐานแฟนบอลเยอะมากทีมนึงในอังกฤษ และส่วนใหญ่ก็เป็นแฟนพันธุ์แท้แบบเข้าเส้นอยู่มาก หากได้ลงในนัดที่สนาม เอลแลนด์ โร้ด ไม่ว่าจะเป็นเกมเล็กหรือเกมใหญ่ผู้ชมในสนามจะเต็มความจุเกือบทุกนัด
ก็ต้องขอให้เหล่าบรรดาแฟนคลับทั้งหลายช่วยกันเชียร์ทีมในดวงใจนี้ให้รอดจากพรีเมียร์ลีก อย่าโชว์ฟอร์มแบบขึ้น ๆ ลง ๆ จนพากันตกชั้นไปอีก แต่ถ้าหากลีดส์ยังคงฟอร์มการเล่นในนัดเปิดสนามพรีเมียร กับลิเวอร์พูล รักษามาตรฐานได้มันก็มีสิทธิ์สูงที่พวกเขาจะไปจบที่อันดับสูงๆ ได้เหมือนกัน ซึ่งเผลอๆ อาจจะทำได้ดีกว่า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เมื่อปีที่แล้วก็เป็นได้