สารบัญ
บรูโน่ แฟร์นันส์ ทุกคนคงรู้จักกันดีว่านี่คือ เพลย์เมคเกอร์จอมทัพที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของโอเล่ กุนนาร์ โซลชา และปิศาจแดงให้ดีขึ้นกว่าเดิม เรียกว่ากว่าเกือบ 40 เกม และ 1 ปี ของเขาทั้งยิงทั้งจ่ายเกือบทุกนัด เข้ามารับหน้าที่ทั้งคนสังหารฟรีคิก จุดโทษ เตะมุม เตะลูกนิ่งทุกรูปแบบ คอยวิ่งปลุกกำลังใจให้ทีม กระตุ้นทีม เรียกว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แต่ในช่วงตั้งแต่กลาง ๆ เดือนมกราคม มาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2021 นั้นบรูโน่ดูจะดรอปลงไป ไม่มีสกอร์ ไม่มีแอสซิสต์มา 5 เกมติด ก่อนจะกลับมามีชื่อบนสกอร์บอร์ดอีกครั้งในเกมถล่มเซาท์แทมตัน 9-0
แต่ในช่วงที่บรูโน่ฟอร์มตกไปนั้น มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร มิหนำซ้ำหลาย ๆ คนในทีมก็พัฒนาตัวเองขึ้นมารับผิดชอบหน้าที่ในส่วนนี้แทนบรูโน่ด้วยซ้ำ และนี่คือ 10 ข้อดี หรือพัฒนาการของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงที่บรูโน่ แฟร์นันส์ ฟอร์มตก
1. ป็อกบากลับมาเฉิดฉาย
“89 ล้าน แต่โชว์ฟอร์มได้แค่เนี้ยยย ?” “กองกลางตัวตัดผม” “มิดฟิลด์จอมม้วน” นี่คือวลีหลัก ๆ ที่ถูกกล่าวถึงนักเตะที่ชื่อ ปอล ป็อกบา
ป็อกบานั้นเป็นกองกลางตำแหน่งจอมทัพของทีม เพียงแต่เขาไม่สามารถรักษาการเล่นให้อยู่ในมาตรฐานได้ ภาพของเขาคือการเล่นยาก โชว์สกิล จ่ายบอลช้า เสียบอล ขี้เกียจ คืออะไรที่แย่ ๆ มันอยู่ในตัวป็อกบาหมด สำหรับคนที่ตั้งแง่กับเขา และยิ่งการเข้ามาของ บรูโน่ แฟร์นันส์ ที่โชว์ฟอร์มโหดพาทีมไล่ได้อย่างสุดยอด ยิ่งทำให้ป็อกบาดูแย่ แม้พวกเขาจะเล่นเข้าขากันก็ตาม
แต่ในช่วง 5-6 เกมที่เพลย์เมคเกอร์โปรตุเกสฟอร์มหายไป ก็กลายเป็นปอล ป็อกบา เนี่ยแหละที่อยู่ ๆ เด่นขึ้น คุมจังหวะเยี่ยม วิ่งด้วยความฟิต ไล่ล่าแย่งบอลเนียนกริบ โชว์ทักษะสกิลได้ถูกจังหวะ เรียกว่าคิดแบบไหนทำได้แบบนั้น แถมยิงสวย ๆ พาทีมชนะได้อีก 2 ประตู โดยเฉพาะประตูที่ยิงใส่ฟูแล่ม บอกเลยว่าป็อกบากคนเดิมกำลังจะกลับมา
2. การเติบโตขึ้นของ แมคโทมิเนย์
ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ครั้งแรกมาจนถึงตอนนี้สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยขึ้น พัฒนาการของ สก็อต แมคโทมิเนย์ มิดฟิลด์ไดนาโม ที่ขึ้นมาจากอคาเดมี่ของทีมนั้นยอดเยี่ยมเหลือเกิน แข็งแกร่งขึ้น รวดเร็วขึ้น ดุดันขึ้น ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลังของทีมในชนิดที่ว่า ปอล ป็อกบา ต้องโดนดรอปไปเลยในช่วงหนึ่ง และตอนนี้เขากลายเป้นนักเตะที่ห้ามเจ็บ ห้ามแบน ห้ามตายของทีมไปซะแล้ว และช่วงหนึ่งที่เขาฉายแสงที่สุด ก็คือช่วงที่บรูโน่ฟอร์มตก จนเขาต้องขึ้นมารับภาระในแดนกลางของทีมมากขึ้นนี่แหละ!
3. ทีมชนะโดยไม่ต้องมีจุดโทษ
หนึ่งข้อครหาที่ติดตัวปิศาจแดงนับตั้งแต่การเข้ามาของบรูโน่คือการได้ประตูจากจุดโทษเกือบทุกเกม! บางเกมเกมจบไปแล้วยังเป่าย้อนมาให้ยิงประตูชัย แต่การที่บรูโน่ไม่ยิงมา 5 เกมนั้นมันหมายความพวกเขาทำประตูได้โดยปราศจากจุดโทษ เพราะบรูโน่คือตัวยิงจุดโทษหมายเลข 1 ของทีม และนั่นคือเครื่องหมายที่บอกว่า พวกเขาชนะโดยได้ประตูจากโอเพ่น เพลย์ล้วน ๆ (ในลีก ไม่นับฟรีคิกที่ยิงในเกมเอฟเอ คัพกับลิเวอร์พูล)
4. ทีมไม่ต้องพึ่งบรูโน่คนเดียว
“บรูโน่ ยูไนเต็ด” ฉายาใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะเกมรุกก็บรูโน่ เกมรับก็บรูโน่ แอสซิสต์ก็บรูโน่ ยิงประตูก็บรูโน่ จะฟรีคิก เตะมุม เสิร์ฟน้ำ หรืออะไรก็บรูโน่ทั้งนั้น แต่ในช่วงที่บรูโน่ ไม่ยิง ไม่จ่าย แต่ทีมยังชนะ นั่นหมายถึงว่า พวกเขารับผิดชอบในส่วนที่บรูโน่ต้องรับผิดชอบได้ดีขึ้น และนักเตะหลายคนกล่าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมได้
5. มีรูปแบบการเล่นที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
อย่างที่กล่าวไปในหัวข้อที่แล้ว เมื่อบรูโน่ฟอร์มตก แต่นักเตะคนอื่น ๆ ก็ยังเล่นกันได้ดีอยู่ และรูปแบบการเล่นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร มีแต่นักเตะคนอื่น ๆ จะเล่นกันเข้าระบบ การเข้าทำมีความแม่นยำ หลากหลาย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกต่างหาก ซ฿่งนี่คือพัฒนาการที่นักเตะในทีมช่วยกันดีดตัวเองขึ้นมา
6. ตัวรุกอื่น ๆ ได้เฉิดฉาย
การที่บรรูโน่ แฟร์นันส์ ฟอร์มตกนั้น ข้อดีอีกอย่างคือ แนวรุกคนอื่นได้โอกาสโชว์ผลงานของตัวเอง มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้โอกาสลากเลื้อย ทั้งยิง ทั้งทำเกม ปอล ป็อกบา โดดเด่นขึ้นมาแบกทีมได้สมกับค่าตัว และค่าเหนื่อย เอดินสัน คาวานี่ ก็กล่าวขึ้นมาเป้นคนสำคัญของทีม แดนกลางก็มีการสร้างมากขึ้นจากมิดฟิลด์อย่าง แม็คทอมและเฟรด เรียกว่า นอกจากมาร์กซิยาล ที่ช่วงนี้พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรกแล้ว คนอื่น ๆ ดูดีกันหมด
7. ความโดดเด่นของ แมค-เฟรด
สก็อต แมคโทมิเนย์ และ เฟรด จริง ๆ แล้วทั้งคู่คือกองกลางคู่ขวัญของโซลชาเลย ตั้งแต่รับงานใหม่ ๆ ยามใดที่ทั้งคู่เล่นด้วยกันฟอร์มดีเสมอ ทั้งสมดุลรุก-รับ การวิ่งไม่มีเหน็ดเหนื่อย การจ่ายบอลที่เข้าขา การสอดประสานที่รู้ใจ ยิ่งช่วงที่ บรูโน่ ดรอปไป ทั้งคู่ขยับจากคนที่คอยเก็บกว่า ขึ้นมาช่วยสนับสนุน และแบ่งบเาได้เป็นอย่างดี
8. กองหลังก็แบกได้
อีกสิ่งที่พัฒนาขึ้นมาคือคู่เซ็นเตอร์แบ็คของทีม ที่ทั้ง แฮรี่ แม็คไกวร์ ,วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ หรือแม้แต่ เอริค ไบยี่ อยู่ ๆ ก็ฟอร์มผีเข้า แข็งแกร่ง เหนียวแน่น แถมยังมีการเซตบอลจากแดนหลังที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ แม็คไกวร์ ที่หลาย ๆ เกมเล่นเป็นเหมือนมิดฟิลด์เลยด้วยซ็ำ ส่วนลินเดอเลิฟอยู่ ๆ ก็กลายเป็นจอมเคลียร์จากพื้นที่อันตราย ซึ่งก็งงเหมือนกันว่า ทำไมมาโหดกันตอนบรูโน่ฟอร์มตก
9. เกมรุกจากฟูลแบค
สิ่งนี้พูดถึงไม่ได้ เพราะตำแหน่งแบ็ค 2 ข้างในฟุตบอลยุคปัจจุบันนั้นสำคัญมากในเกมรุก มันคืออาวุธรับ บางทีมเป็นอาวุธหลัก แต่ของปิศาจแดงนั้นเด่นแค่รับ เกมรุกทื่อ ยึกยักไม่เปิดบอล แถมมาตรฐานไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้ต้องยอมรับว่า ทั้ง วาน-บิสซาก้า และ ลุค ชอว์ นั้นโดดเด่นขึ้นมาจริง ๆ โดยเฉพาะในรายของชอว์ที่ ถูกเรียกลับไปติดทีมชาติ กลังกลับมาโชว์ฟอร์มดุดัน เหมือนสมัยก่อนขาหักได้อีกครั้ง
10. กำลังใจของทีม
แน่นอนว่าการที่ทุกคนดีขึ้นในช่วงที่บรูโน่ แฟร์นันส์ ดรอปลงไปนั้น มันช่วยให้กำลังใจของทีมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด บรูโน่ไม่ต้องแบกทีมคนเดียว ปอล ป็อกบา กลับมาแข็งแกร่ง กองหลังเล่นดีทั้งแผง แถมเดวิด เด เคอา ก็เซฟกระจายเหมือนวันเก่า ๆ และเมื่อวันที่บรูโน่กลับมาทั้งยิ่งทั้งจ่ายอีกครั้ง บวกกำลังใจที่ดีสุด ๆ ของทีม และในทุกข้อที่กล่าวมา ปิศาจแดงก็คงไม่ต้องกลัวใครอีกต่อไป