Meball พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล -vs- เชลซี
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
20/09/20 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
23/07/20 ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 5-3
04/03/20 เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 2-0 / เอฟเอ คัพ
22/09/19 เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
15/08/19 ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 1-1 / (กลาง) ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะบุกเอาชนะ เชฟฯยูฯ 2-0 แบบดวงมาเต็ม สำหรับสภาพทีมล่าสุดก่อนทำศึก ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่้มเติม นอกเสียจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ กับ โฌแอล มาติป สี่แข้งเดี้ยงหน้าเดิมซึ่งยังไม่หายดี คาดว่า คล็อปป์ เตรียมวางหมากในระบบ 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าตาข่ายตามระเบียบ
เชลซี
เชลซี ของกุนซือ โธมัส ทูเชิ่ล เพิ่งจะเปิดรังเจ๊า แมนฯยู 0-0 นั่นทำให้สองเกมท้ายในลีกเสมอรวด สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง แม้ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามารบกวน แต่ต้องรอเช็คฟิต ธิอาโก้ ซิลวา กับ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย สองตัวเก่งที่ต้องรอเช็คฟิตอีกครั้งว่าจะทันลงบู๊หรือไม่ คาดว่า ทูเชิ่ล เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 3-4-2-1 โดยมี ติโม แวร์เนอร์ ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ เมสัน เม้าต์ กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ผนึกกำลังกันสร้างสรรค์เกมรุกอยู่ด้านหลัง
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, จอร์จินิโอ้ ไวย์นัลดุม, เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ ม็องดี้ – เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ – รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาเตโอ โควาซิช, มาร์กอส อลอนโซ่ – เมสัน เม้าต์, ไค ฮาแวร์ตซ์ – ติโม แวร์เนอร์
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
ต้องยอมรับว่าอาการของ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีกตอนนี้สาหัสสุดๆ โดยเฉพาะการลงบู๊ใน แอนฟิลด์ ที่เคยเคลมไว้ว่าไม่แพ้ใครหลาย 10 เกมติดต่อกัน กลับกลายเป็นพ่ายรวด 4 หนซ้อนแบบน่าเกลียด และโดนทะลวงแนวรับยับเยินร่วมๆ 8 เม็ด แถมยิงคืนได้แค่ตุงเดียวเท่านั้น ยังมองว่าการเผชิญหน้ากับผู้มาเยือนอย่าง เชลซี แน่นอนการเก็บสามแต้มในสถานการณ์แบบนี้ เป็นเรื่องยากลำบาก ประกอบกับอาคันตุกะมาพร้อมกับฟอร์มไร้พ่าย 7 แมตช์ซ้อนในลีก (ชนะ 4, เสมอ 3) และผลิตสกอร์เป็นกอบเป็นกำรวมทั้งสิ้น 8 ประตูอีกด้วย เมื่อพิจารณาจากเรตกับภาพรวมต่างๆ แนะนำอยู่รองลุ้นสองมุมคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ฟันธง! เชียร์ เชลซี ขี่พายุดาบเทวดา…!
Mescore : “เชลซี เสมอ 1-1 / ชนะ 1-0”
Meball เซเรีย อา
ปาร์ม่า -vs- อินเตอร์ มิลาน
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
01/11/20 อินเตอร์ มิลาน เสมอ ปาร์ม่า 2-2
29/06/20 ปาร์ม่า แพ้ อินเตอร์ มิลาน 1-2
26/10/19 อินเตอร์ มิลาน เสมอ ปาร์ม่า 2-2
10/02/19 ปาร์ม่า แพ้ อินเตอร์ มิลาน 0-1
15/09/18 อินเตอร์ มิลาน แพ้ ปาร์ม่า 0-1
ปาร์ม่า
เจ้าบ้าน ปาร์ม่า ภายใต้การทำทีมของเทรนเนอร์ โรแบร์โต้ ดา แวร์ซ่า เกมล่าสุดอุตส่าห์ขึ้นนำ สเปเซีย ไปก่อน 2-0 ทว่ากลับโดนไล่ตามตีเสมอเสียอย่างนั้นส่งผลให้ 15 เกมมาแล้วที่พวกเขายังไม่ชนะใคร ด้านความพร้อมเกมวันนี้แข้งเดี้ยงยังคงเป็นหน้าเดิมๆทั้งหมด แต่ก็มีข่าวดีเพราะจะได้ แกสตัน บรู้กมัน พ้นโทษแบนกลับมาลงสามได้อีกครั้ง ส่วนการจัดทัพในระบบ 4-3-3 แดนกลางวาง เอร์นานี่ คอยบัญชาเกมสนับสนุน 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง ยานน์ การาโมห์ (19 นัด/2 ประตู), วาเลนติน มิไฮล่า (8 นัด) และยูราจ คุชก้า (20 นัด/5 ประตู) คอยล่าตาข่ายในเกมนี้
อินเตอร์ มิลาน
ด้านทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ภายใต้การทำทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ผลงานกำลังร้อนแรงแบบสุดๆ ชนะมา 5 เกมติดในลีก และรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตาราง ส่วนความพร้อมนั้นเกมวันนี้ไม่มีแค่ สเตฟาโน่ เซนซี่ รายเดียวเท่านั้น แถมยังมีข่าวดีเพราะจะได้ อัชราฟ ฮาคิมี่ แบ็คขวาตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง คาดว่าเกมนี้พวกเขาจะมาในระบบ 3-5-2 ตามถนัดอีกครั้ง แดนกลางยังใช้ตัวหลักเดิมๆจากเกมล่าสุดนำทีมมาโดย นิโคโล่ บาเรลล่า, มาร์เซโล่ โบรโซวิช และ คริสเตียน อีริคเซ่น คอยปั้นเกมสนับสนุน 2 หัวหอกในแดนหน้าอย่าง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (24 นัด / 13 ประตู) และ โรเมลู ลูกากู (23 นัด / 18 ประตู) ที่กำลังร้อนแรงยิงติดต่อกัน 3 เกมติดลงล่าตาข่ายในเกมนี้
ปาร์ม่า (4-3-3) : ลุยจิ เซเป้ – มักซีม บูซี่, ยอร์ดาน ออโซริโอ้, ริคคาร์โด้ กายัลโล่, จูเซ็ปเป้ เปซเซลล่า – แกสตัน บรู้กมัน, เอร์นานี่, ยัสมิน เคอร์ติช – ยูราจ คุชก้า, ยานน์ การาโมห์, วาเลนติน มิไฮล่า
อินเตอร์ มิลาน (3-5-2) : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิค – มิลาน สคริเนียร์, สเตฟาน เดอ ฟราย, อเลสซานโดร บาสโตนี่ – อัชราฟ ฮาคิมี่, นิโคโล่ บาเรลล่า, มาร์เซโล่ โบรโซวิช, คริสเตียน อีริคเซ่น, อิวาน เปริซิซ – โรเมลู ลูกากู, เลาตาโร่ มาร์ติเนซ
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
เจ้าบ้าน ปาร์ม่า ฟอร์มย่ำแย่อย่างหนักไม่ชนะใครมา 15 เกมติดแล้ว บ่งบอกชัดเจนว่าฟอร์มของพวกเขาย่ำแย่เป็นอย่างมาก ขณะที่ทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน แข็งแกร่งดุดันแบบสุดๆ ชนะมา 5 เกมติด แถม 2 เกมในนั้นคือการชนะทีมแกร่งอย่าง ลาซิโอ และเอซี มิลาน อีกด้วย ระดับของพวกเขาตอนนี้ต้องบอกว่าเหนือกว่าทุกทีมในลีก เรทราคาเปิดออกมาให้ ทีมเยือน บุกมาต่อ ลูกครึ่งควบสอง(ลบห้า) พิจารณาแล้วขอแนะนำให้อยู่ฝั่ง ต่อ ดีที่สุดครับ ระดับต่างกันอย่างชัดเจน “งูใหญ่” เกมรุกกำลังเหี้ยมโหดมากๆไม่มีใครหยุดยั้งได้ ตัวหลักอยู่กันครบ มีทั้งลูกแข็งแกร่ง และลูกเทคนิค ฉะนั้นเกมนี้มั่นใจว่าพวกเขาจะเอาชนะได้อย่างแน่นอน อยู่ฝั่งต่อโอกาสเฮรับทรัพย์มีมากกว่าครับ
Mescore : อินเตอร์ มิลาน ชนะ 3-0
โกปา เดล เรย์ : เลบานเต้ -vs- บิลเบา
ผลงานที่เคยพบกัน
27/02/21 เลบานเต้ – บิลเบา 1-1
12/02/21 บิลเบา – เลบานเต้ 1-1 (โกปา เดล เรย์)
18/10/20 บิลเบา – เลบานเต้ 2-0
12/07/20 เลบานเต้ – บิลเบา 1-2 (กลาง)
10/11/19 บิลเบา – เลบานเต้ 2-1
เลบานเต้
ต้องรอทดสอบความฟิตของเอนิส บาร์ดี้ ที่เจ็บกล้ามเนื้อหลังพังประตูแรกของฤดูกาลของเขาในการเจอแอต. มาดริด เซร์คิโอ ปอสติก้า เซ็นเตอร์แบ็กตัวเก๋าที่เจ็บบริเวณเดียวกัน และเนมันย่า ราโดย่า กองกลางที่มีปัญหาที่ต้นขา ขณะที่กอนซาโล่ เมเลโร่ และโฮเซ่ คัมปันญ่า สองกองกลางยังไม่หายเจ็บที่ต้นขา ข่าวดีคือได้รูเบน เบโซ่ กองหลังพ้นแบนกลับมา
บิลเบา
จะไม่มีอินญิโก้ มาร์ติเนซ ปราการหลังตัวหลักที่ติดโทษแบน แต่ก็จะได้กองกลางอย่างอูไน โลเปซ และดานี่ การ์เซีย พ้นโทษแบนจากเกมลีกที่แล้วกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง ตามระบบ 4-4-2 กองหน้าคู่เป็นตัวเก่งอย่างอินญากี้ วิลเลี่ยม และราอูล การ์เซีย แดนกลางมีเด มาร์กอส, อูไน เวนเซดอร์, ดานี่ การ์เซีย และอิเคร์ มูเนียอิน เป็นตัวทำเกม
เลบานเต้ (4-4-2): ดานี่ การ์เดนาส; โคเก้, ออสการ์ ดูอาร์เต้, รูเบน เบโว่, ตอนโญ่; ฮอร์เก้ เด ฟรูตอส, มิกาเอล มัลซ่า, นิโกล่า วุคเชวิช, โมราเลส; โรเคร์ มาร์ติ, เซร์คิโอ เลออน
บิลเบา (4-4-2): อูไน ซิม่อน; กาป้า, อูไน นุนเญซ, เยราย, ยูริ; เด มาร์กอส, อูไน เวนเซดอร์, ดานี่ การ์เซีย, อิเคร์ มูเนียอิน; อินญากี้ วิลเลี่ยมส์, ราอูล การ์เซีย
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
นัดนี้เป็นเลกที่สองของศึกโกปา เดล เรย์ รอบรองชนะเลิศ หลังจากที่เลกแรกเสมอกันมา 1-1 ที่บิลเบา ล่าสุดเจอกันในลา ลีกาเมื่อวันศุกร์ ผลเสมอสกอร์เดียวกัน กลับมาเจอกันคราวนี้ก็น่าจะสู้กันสูสี บิลเบาดูมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งกว่า ผลงานช่วงหลังไม่เลว (10 นัดหลังทุกรายการแพ้นัดเดียว และชนะ 4) ขณะที่เลบานเต้เหนียวแน่นแพ้ยากเช่นกัน รวมทุกรายการ 14 เกมหลังแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้น (ชนะ 5) อย่างไรก็ตามน่าสนใจตรงเลบานเต้ 3 นัดหลังเจอแอต. มาดริดถึง 2 นัด ได้ไปถึง 4 แต้ม น่าจะมีของอยู่พอสมควร เกมนี้เล่นในถิ่นน่าจะมีลุ้นถึงชนะ
