สารบัญ
วิเคราะห์บอลวันนี้ ยังอยู่กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ เหมือนเดิม ทีมใหญ่ทั้ง แมน ซิตี้ และ เรอัล มาดริด ส่วนอีกคู่ลาลีก้า สเปน เป็นบาร์เซโลน่าลงสนาม เรามาดูสถิติ ทั้ง 3 คู่กันดีกว่า
Meball แชมเปี้ยนส์ ลีก
กลัดบัค -vs- แมนฯซิตี้
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
24/11/16 กลัดบัค เสมอ แมนฯซิตี้ 1-1 / ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
15/09/16 แมนฯซิตี้ ชนะ กลัดบัค 4-0 / ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
09/12/15 แมนฯซิตี้ ชนะ กลัดบัค 4-2 / ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
01/10/15 กลัดบัค แพ้ แมนฯซิตี้ 1-2 / ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
กลัดบัค
กลัดบัค ของกุนซือ มาร์โก้ โรเซ่ เพิ่งจะเปิดรังพ่ายให้กับ ไมนซ์ 1-2 ในลีกสดๆ ร้อนๆ สำหรับความพร้อมของทีมวันนี้ โชคดีที่ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามารบกวน นั่นหมายความว่าขุมกำลังตัวหลักอยู่กันครบ คาดว่า โรเซ่ เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี อลาสซาน เปลอา ยืนหน้าล่าสกอร์และใช้ โยนาส ฮอฟมันน์, ลาร์ส สตินเดิ้ล กับ มาร์คุส ตูราม เป็นสามประสานกลางรุกคอยสนับสนุนอยู่ด้านหลังเหมือนเช่นเคย
แมนฯซิตี้
แมนฯซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งจะบุกเอาชนะ อาร์เซน่อล 1-0 ในลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับสภาพทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก นาธาน อาเก้ ปราการหลังวัย 26 ปี เพียงรายเดียวที่ยังไม่หายดี คาดว่า เป๊ป เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-3-3 โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เฮซุส กับ ฟิล โฟเด้น เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ โรดริโก้ เอร์นานเดซ รับจ๊อบคุมกลางตามระเบียบ
กลัดบัค (4-2-3-1) : ยานน์ ซอมเมอร์ – สเตฟาน ไลเนอร์, มัตธิอัส กินเทอร์, นิโก้ เอลเวดี้, รามี่ เบนเซไบนี่ – คริสตอฟ คราเมอร์, ฟลอเรียน นอยเฮาส์ – โยนาส ฮอฟมันน์, ลาร์ส สตินเดิ้ล, มาร์คุส ตูราม – อลาสซาน เปลอา
แมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – เชา คานเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบ็น ดิอาส, โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้ – เควิน เดอ บรอยน์, โรดริโก้ เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกาน – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เฮซุส, ฟิล โฟเด้น
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
จากภาพรวมของทั้งสองทีม ณ เวลานี้ ต้องยอมรับว่าทีมเยือน แมนฯซิตี้ มีโอกาสบุกกำชัยสูงมาก เพราะพวกเขามาพร้อมกับฟอร์มอันสุดยอดหลังคว้าชัยรวด 18 เกมท้ายทุกรายการและซัดไม่เลี้ยงรวมทั้งสิ้น 47 ประตูเลยทีเดียว เรียกว่าวางใครลงมาก็ทำผลงานได้น่ากลัวและผลิตสกอร์กันได้ไม่ยากเย็น สวนทางกับ กลัดบัค ที่ล่าสุดเพิ่งจะพ่ายคารังให้กับ ไมนซ์ 1-2 ทำให้ฟอร์มระยะหลังหวังพึ่งยาก ด้วยการชนะ 1 จาก 5 เกมท้ายทุกเวที (เสมอ 2, แพ้ 2) และโดนทะลวงแนวรับร่วมๆ 6 เม็ดอีกด้วย เชื่อว่าการเผชิญหน้ากันครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา น่าจะเสร็จอาคันตุกะบุกชนะในเลกแรก ฟันธง! จัดหนัก “เรือใบสีฟ้า” มาตามนัด…!
Mescore : แมนฯซิตี้ ชนะ 2-0
Meball แชมเปี้ยนส์ ลีก
อตาลันต้า -vs- เรอัล มาดริด
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
– ไม่เคยพบกัน
อตาลันต้า
ไม่มีปัญหาตัวเจ็บมากนักก่อนเกมสำคัญ นอกจาก ฮันส์ ฮาเตบัวร์ แบ้คจอมบุกซึ่งเดี้ยงค้างสต็อคเพียงรายเดียว จึงไม่มีเหตุผลที่ จานปิเอโร่ กัสเปรินี่ กุนซือใหญ่จะเปลี่ยนทีมจากชุดชนะ 3 เกมติดต่อกัน
โดยจะยึดระบบเก่ง 3-4-1-2 วาง หลุยส์ มูเรียล ล่าตาข่ายกับ ดูวาน ซาปาต้า โดยมี โยซิป อิลิซิซ เป็นกลางรุก ส่งผลให้ รุสลาน มาลินอฟสกี้ อีกหนึ่งตัวรุกชั้นดีต้องนั่งสำรองอีกนัด
เรอัล มาดริด
ปัญหาของ มาดริด ก็คือตัวผู้เล่นบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าวถึง 9 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป้นตัวหลักอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น เอแด็น อาซาร์, มาร์เซโล่, เซร์คิโอ รามอส, เอแดร์ มิลิเตา และ ดานี่ คาร์บาฆัล รวมถึงกองหน้าอย่าง คาริม เบนเซม่า ก็เดี้ยงสมทบเข้ามา
ส่งผลให้ ซีดาน แทบไม่ต้องคิดมากกับการจัดทัพ ฝั่ง 3 มิดฟิลด์ยังเป็น โทนี่ โครส, คาเซมิโร่ และ ลูก้า โมดริช เช่นเดียวกับแนวรุกเหลือให้เลือกใช้งานเพียง มาร์โก อเซนซิโอ้, มาริอาโน่ กับ วินิซิอุส จูเนียร์
อตาลันต้า (3-4-1-2) : ปิแอร์ลุยจิ กอลลินี่ – ราฟาเอล โตลอย, คริสเตียน โรเมโร่, เบรัต ฌิมซิติ – โยอาคิม มาเอห์เล่, มาร์เท่น เดอ รูน, เรโม่ ฟรอยเลอร์, โรบิน โกเซ่นส์ – โยซิป อิลิซิซ – ดูวาน ซาปาต้า, หลุยส์ มูเรียล
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์ตัวส์ – ลูคัส บาซเกซ, นาโช่ เฟร์นานเดซ, ราฟาเอล วาราน, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – โทนี่ โครส, คาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช – มาร์โก อเซนซิโอ้, มาริอาโน่, วินิซิอุส จูเนียร์
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
เก่งเล็กเจอเก่งใหญ่ อตาลันต้า ได้ลูกสด แต่ เรอัล มาดริด ก็มีลูกเก๋า มองเผินชั่วดมงนี้เจ้าบ้านน่าเชียร์กว่าในแง่ฟอร์มการเล่น และสภาพทีม อย่างไรก็ตามเกมใหญ่แบบนี้ประสบการณืสำคัญกว่า ซึ่ง “ชุดขาว” ได้เปรียบจุดนี้ และมักเก็บชัยแบบไม่คาดคิดอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นหากทีมจากเซเรีย อา ฮึกเหิมบุกเข้าหาก็อาจติดกับดักผู้มาเยือน
ประกอบกับเกมเหย้ารายการนี้ของอตาลันต้า ก็ไม่สู้ดีเป็นทุนเดิม หลังจากสะกดชัยไม่เจอติดต่อกันมา 4 เกม ผิดกับอาคันตุกะซึ่งเคยบุกตบ อินเตอร์ มิลาน มาแล้ว โดยเกมดังกล่าวใครก็มองว่า มาดริด ไม่น่ารอด แสดงให้เห็นถึงความเขี้ยวของยอดทีมแห่งยุโรป ดังนั้นซื้อความเจนจัดในยูซีแอลของทีมเยือน น่าจะเค้นฟอร์มเห่งบุกทุบอตาลันต้า ที่ยังอ่อนหัดไปได้
Mescore : เสมอ 2-2 หรือ มาดริด ชนะ 3-2
Meball ลา ลีกา
บาร์เซโลน่า -vs- เอลเช่
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
24/01/21 เอลเช่ แพ้ บาร์เซโลน่า 0 – 2
20/09/20 บาร์เซโลน่า ชนะ เอลเช่ 1 – 0
25/01/15 เอลเช่ แพ้ บาร์เซโลน่า 0 – 2
16/01/15 เอลเช่ แพ้ บาร์เซโลน่า 0 – 4
09/01/15 บาร์เซโลน่า ชนะ เอลเช่ 5 – 0
บาร์เซโลน่า
เจ้าถิ่นยังมีปัญหาตัวเจ็บ 3 ราย ไม่ว่าจะเป็น เซร์กี โรเบร์โต้, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ อันซู ฟาติ ที่จะไร้ชื่อตามเดิม ขณะที่แนวรับอย่าง โรนัลด์ อราวโฆ่ อยู่ในช่วงรีดฟิต ต้องใช้เวลาอีกหน่อยถึงจะพร้อม ส่วนแนวรุกอาจดร็อป อองตวน กรีซมันน์ ที่เล่นไม่ออกในเกมเสมอกาดิซ และส่ง ฟรานซิสโก้ ตรินเกา ลงมาประสานงานกับ ลิโอเนล เมสซี่ และ มุสซ่า เดมเบเล่ ดูบ้าง เช่นเดียวกับแดนกลางจะกลับมาใช้งาน มิราเล็ม ปานิช และ ริกี้ ปูอิก โดยมี เซร์ฆิโอ บุสเกตส์ ลงสนามต่อเนื่อง
เอลเช่
ทีมเยือน เอลเช่ จะไม่สามารถใช้บริการ อิวาน มาร์โกเน่ กองกลางตัวหลักที่ติดโทษแบน จึงต้องส่ง โอเมนูเก้ เอ็มฟูลู ลงทำหน้าที่แทน นอกจากนั้นต้องประเมินความฟิต ฟิเดล, ดิเอโก้ กอนซาเลซ และ บิคตอร์ โรดริเกวซ ว่าพร้อมหรือไม่ ที่เหลือยู่กันครบ คาดว่าจะลงสู้ในระบบ 4-2-3-1 แนวรุกมี ลูคัส โบเย่ เป็นหน้าเป้า ปล่อยให้ โฆซัน, เตเต้ โมเรนเต้ กับ เอมิเลียโน่ ริโกนี่ ทำเกมรุกอยู่ข้างหลัง
บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น ; แซร์จินโญ่ เดสต์, เคราร์ด ปิเก้, เกลมงต์ ลองเล่ต์, จอร์ดี้ อัลบา ; มิราเล็ม ปานิช, เซร์ฆิโอ บุสเกตส์, เปดรี้ ; ฟรานซิสโก้ ตรินเกา, ลิโอเนล เมสซี่, มุสซ่า เดมเบเล่
เอลเช่ (4-2-3-1) : เอ็ดการ์ บาดิอา – ซิฟู, ดิเอโก้ กอนซาเลซ, ดานี่ คัลโว่, โยฮัน โมฮิก้า – โอเมนูเก้ เอ็มฟูลู, ราอูล กูตี – โฆซัน, เตเต้ โมเรนเต้, เอมิเลียโน่ ริโกนี่ – ลูคัส โบเย่
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
ชั่วโมงนี้บาร์ซ่า ต่อใครแพงๆเสี่ยงกระเป๋าฉีกสูงมาก หากมองจากแฮนดิแคป 4 นัดหลังปรากฏว่าแพ้ราคาไปถึง 3 เกม ตัวอย่างคือนัดล่าสุดที่ต่อถึง 2 ลูกแต่เสมอกับกาดิซ คู่แข่งดซนล่าง เพราะฉะนั้นรับมือกับอีกหนึ่งทีมท้ายตารางอย่าง เอลเช่ ก็วางใจไม่ได้ อีกทั้งนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา อาคันตุกะไม่เคยแพ้ใครนอกบ้านขาดเกิน 2 ประตูอีกด้วย ดังนั้นเจ้าบ้านที่มาตรฐานดร็อปลงเยอะ แถมผลงานแก่วงไปมา มองแล้วแค่ชนะก็เต็มกลืน