Meball
สเปอร์ส -vs- เชลซี
ผลงานที่เคยพบกัน
30/11/20 เชลซี – สเปอร์ส 0-0
30/09/20 สเปอร์ส – เชลซี 1-1
22/02/20 เชลซี – สเปอร์ส 2-1
23/12/19 สเปอร์ส – เชลซี 0-2
28/02/19 เชลซี – สเปอร์ส 2-0
สเปอร์ส
ต้องรอทดสอบความฟิตของต็องกีย์ เอ็นดงเบเล่ มิดฟิลด์ที่โดนเปลี่ยนออกในเกมกับไบรท์ตันเนื่องจากการบาดเจ็บ เซร์คิโอ เรกิลอน แบ็กซ้ายจอมบุก, โจวานี่ โลเซลโซ่ มิดฟิลด์ และแฮร์รี่ เคน หมดสิทธิ์ลงเล่นเนื่องจากเจ็บ ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า คาร์ลอส วินิซิอุส จะได้ลงตัวจริงแทนเคน
เชลซี
พร้อมจัดหนักจัดเต็ม ไม่มีตัวเจ็บ / แบน รบกวน เกมรุกฮาคิม ซีเย็ค ที่ได้พักในเกมกับเบิร์นลี่ย์ เมื่อวันเสาร์ และเอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลาง ที่มีชื่อเป็นตัวสำรองในเกมเดียวกัน กลับมาฟิตสมบูรณ์ทั้งคู่
สเปอร์ส (3-4-3): อูโก้ โยริส; โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, อีริก ไดเออร์, โจ รอนดอน; แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, ปิแอร์ ฮอยเบียร์, ต็องกีย์ เอ็นดงเบเล่, เบน เดวีส; เอริก ลาเมล่า, วินิซิอุส, ซน เฮือง มิน
เชลซี (3-4-2-1): เอดูอาร์ เมนดี้; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ติอาโก้ ซิลวา, อันโตนิโอ รูดิเกอร์; คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, จอร์จินโญ่, มาเตโอ โควาชิช, มาร์กอส อลอนโซ่; เมสัน เมาท์, ติโม แวร์เนอร์; โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
สเปอร์ส (20 นัด ชนะ 9 เสมอ 6 แพ้ 5 ได้ 34 เสีย 21) อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์อยู่ดีๆ ตอนนี้หลุดวงโคจรไปไกล หลังชนะได้แค่ 2 ใน 9 นัดหลังในลีก โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเก้าอี้เริ่มร้อนแล้ว
ด้านเชลซี (21 นัด ชนะ 6 เสมอ 6 แพ้ 6 ได้ 35 เสีย 23) กุนซือใหม่โธมัส ตูเคิล ได้สามแต้มแรกแล้วในฐานะผจก.ทีมสิงโตน้ำเงินคราม หลังพาทีมชนะเบิร์นลี่ย์ 2-0 น่าจะทำให้บรรยากาศในทีมดีขึ้น นัดนี้ไปเยือนสเปอร์สที่ฟอร์มย่ำแย่ แถมขาดแฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวเก่งด้วย เป็นโอกาสของสิงโตน้ำเงินครามที่จะบุกชนะ
Mescore : เชลซี ชนะ 2-1
Mebet เดนมาร์ก
นอร์ดเยลลันด์ -vs- บรอนด์บี้
ผลงานที่เคยพบกัน
13/09/20 บรอนด์บี้ ชนะ นอร์ดเยลลันด์ 3 – 209/07/20 บรอนด์บี้ ชนะ นอร์ดเยลลันด์ 4 – 0
28/06/20 นอร์ดเยลลันด์ แพ้ บรอนด์บี้ 0 – 2
09/03/20 นอร์ดเยลลันด์ เสมอ บรอนด์บี้ 2 – 2
15/09/19 บรอนด์บี้ ชนะ นอร์ดเยลลันด์ 4 – 2
นอร์ดเยลลันด์
ยังไม่สามารถใช้งาน 2 ตัวรุกอย่าง โมฮัมเหม็ด ดิโอม็องเด้ (11 นัด 3 ประตู) กับ โจนาธาน อาม่อน (1 นัด) ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ นอกนั้นพร้อมลงสนาม ด้านการจัดทัพเตรียมลุยในระบบ 3-4-3 นำโดย 3 กองหน้า อาบู ฟรานซิส (4 ประตู), อิสซัก อตาย่า (3 ประตู) และ คามัลดีน ซูเลมาน่า (4 ประตู) ปล่อยให้ ยาค็อบ คริสเตนเซ่น (11 นัด) บัญชาการตรงกลาง
บรอนด์บี้
ฝั่งอาคันตุกะไม่มีปัญหาตัวเจ็บ หรือติดแบนเพิ่มเติม ยกเว้น จะขาดแค่เพียง บลาส ริเวรอส (1 นัด) ที่เจ็งค้างสต็อคเพียงรายเดียว ขณะที่การจัดทัพ เตรียมส่งชุดที่ดีที่สุด ในระบบ 3-5-2 วาง โดยมี มิคาเอล อูห์เร่ (7 ประตู) ล่าตาข่ายกับ ไซม่อน เฮดลุนด์ (3 ประตู) ปล่อยให้ โยซิป ราโดเซวิช, เยสเปอร์ ลินด์สตรอม และ โทเบียส บอร์คีต ประสานงานตรงกลาง
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
พักเบรคมาเกือบ 2 เกือน ซึ่งไม่รู้ว่าเจ้าบ้าน นอร์ดเยลลันด์ จะหายเมาหมัดหรือยัง หลังจากแพ้ทิ้งทวน 3 เกมติดก่อนพักครึ่งซีซั่น อย่างไรก็ดีเกมเหย้า นอร์ดเยลลันด์ ทำได้ค่อนข้างแจ่ม เมื่อหลุดแพ้เกมเดียวในรอบ 8 นัดหลังสุด สวนทางกับ บรอนด์บี้ ที่หลุดแพ้เกมเยือนค่อนข้างบ่อย กับสถิติพ่าย 3 ใน 5 ทริปหลังยืนยันได้ อีกทั้งสถิติที่เคยมาเยือนสังเวียนแห่งนี้ไม่ถึงกับดี โดยสะกดชัยกลับออกมาเพียงครั้งเดียวจาก 3 ครั้งหลังสุด ดังนั้นมองว่าเจ้าถิ่นดีพอจะเก็บ 1 แต้มออกมาเป็นอย่างน้อย
Mescore : เสมอ 1-1 หรือ นอร์ดเยลลันด์ ชนะ 1-0
Meball โกปา เดล เรย์
เรอัล เบติส -vs- แอธเลติก บิลเบา
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
24/11/20 แอธเลติก บิลเบา ชนะ เรอัล เบติส 4-0
20/06/20 แอธเลติก บิลเบา ชนะ เรอัล เบติส 1-0
08/12/19 เรอัล เบติส ชนะ แอธเลติก บิลเบา 3-2
28/01/19 แอธเลติก บิลเบา ชนะ เรอัล เบติส 1-0
24/09/18 เรอัล เบติส เสมอ แอธเลติก บิลเบา 2-2
เรอัล เบติส
ยังไม่สามารถใช้วาน ดานี่ มาร์ติน และ เคลาดิโอ บราโว่ รวมไปถึง บิคตอร์ คามาซาร่า ที่ยังไม่มีส่วนร่วมกันทีมกับตั้งแต่เปิดฤดูกาล รวมถึงแนวรุกอย่าง ดิเอโก้ ไลเนซ ก็ยังไม่พร้อม ด้านการจัดทัพคาดว่าเกมนี้จะเลือกส่ง บอร์ฆ่า อีเกลเซียส ลงล่าตาข่าย โดยมี ฆัวกิน ซานเชซ, นาบิล เฟคีร์ และ คริสเตียน เตโย่ ในระบบ 4-2-3-1
แอธฯ บิลเบา
ฝั่งทีมเยือนไม่มีปัญหาตัวเจ็บเพิ่มเข้ามาจากเกมพ่ายบาร์ซ่า 1-2 นอกจาก 2 หน้าเดิมอย่าง มิเกล บาเลนเซียก้า กับ อิญิโก้ วิเซนเต้ ซึ่งหลุดจากทีมมานานแล้ว ด้านการจัดทัพคาดว่าจะโรเตชั่นตำแหน่งผู้รักษาประตู ด้วยการส่ง โฆกิน เอซเกียต้า ลงเฝ้าเสาใน รายการนี้ ขณะที่ ออสก้า เด มาร์กอส,อิเกร์ มูเนียอิน และ อเล็กซ์ เบเรนเกร์ ที่จะยืนประสานงานร่วมกันเหมือนเคย ปล่อยให้ อาเซียร์ บียาลีเบร ลงล่าตาข่าย
เรอัล เบติส (4-2-3-1) : โฆเอล โรเบลส – มาร์ติน มอนโตย่า, ซิดนี่้ย์, อิสซ่า มานดี้, ฆวน มิรานด้า – เซร์กิโอ กานาเลส, วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่ – ฆัวกิน ซานเชซ, นาบิล เฟคีร์, คริสเตียน เตโย่ – บอร์ฆ่า อีเกลเซียส
แอธฯ บิลเบา (4-2-3-1) : โฆกิน เอซเกียต้า – อังเดร กาป้า, อูไน นูนเญซ, อิญิโก้ มาร์ติเนซ, ยูริ เบร์ชีเช่ – มิเกล เบสก้า, อูไน โลเปซ – ออสก้า เด มาร์กอส,อิเกร์ มูเนียอิน, อเล็กซ์ เบเรนเกร์ – อาเซียร์ บียาลีเบร
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
อยู่ในช่วงขาขึ้นด้วยกัน แต่ทีมเยือนได้เปรียบเนื่องจากได้พักมากกว่า 1 วัน อีกทั้งมีสถิติเกมเยือนรายการนี้ที่ยอดเยี่ยม เมื่อเก็บชัยถึง 8 จาก 10 เกมหลัง หนึ่งในนั้นยกพลชนะทีมแกร่งอย่าง เซบีย่า มาแล้ว ขณะที่เบติส น่าจะอ่อนล้ากว่า กอปรกับผลงานในบ้านศึกโกปา เดล เรย์ ค่อนข้างฝืด โดยสะกดชัยฝนเวลาปกติได้ครั้งเดียวตลอด 6 นัดที่ผ่านมา ไหนจะเรื่องทางบอลซึ่งบิลเบา ข่มพอตัว กับสถิติบุกพ่ายหนเดียวจาก 4 ทริปหลังยืนยันได้ ดังนั้นวัดจากราคาเสมอ เชียร์อาคันตุกะสบายใจกว่า
