Meball พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล -vs- เบิร์นลี่ย์
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
11/07/20 ลิเวอร์พูล เสมอ เบิร์นลี่ย์ 1-1
01/09/19 เบิร์นลี่ย์ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3
10/03/19 ลิเวอร์พูล ชนะ เบิร์นลี่ย์ 4-2
06/12/18 เบิร์นลี่ย์ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
01/01/18 เบิร์นลี่ย์ แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะเปิดรังเจ๊าจืด แมนฯยู 0-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนทำศึก ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก ดิโอโก้ โชต้า, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, นาบี เกอิต้า และ คอนสแตนตินอส ซิมิคาส เหล่าแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคซึ่งยังไม่หายดี
คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ ผนึกกำลังกันล่าสกอร์ในแดนหน้าตามสูตร ขณะที่แดนกลางน่าจะได้เห็น เคอร์ติส โจนส์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง
เบิร์นลี่ย์
เบิร์นลี่ย์ ของกุนซือ ฌอน ไดช์ เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ เวสต์แฮม 0-1 ทำให้สองเกมลีกหลังสุดแพ้รวด สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามารบกวน นั่นหมายความขุมกำลังทั้งหมดอยู่กันครบ
คาดว่า ไดช์ เตรียมวางหมากในแผนการเล่น 4-4-2 โดยมี แอชลี่ย์ บาร์นส์ กับ คริส วู้ด ควงคู่กันล่าสกอร์ในแดนหน้าและใช้ ร็อบบี้ เบรดี้ กับ ดไวจ์ท แม็กนีล รับจ๊อบปีกคอยขึ้นเกมริมเส้นขวา-ซ้ายตามระเบียบ
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, เคอร์ติส โจนส์ – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
เบิร์นลี่ย์ (4-4-2) : นิค โป๊ป – แม็ตธิว โลว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบ็น มี, อีริค ปีเตอร์ส – ร็อบบี้ เบรดี้, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, จอช บราวน์ฮิลล์, ดไวจ์ท แม็กนีล – แอชลี่ย์ บาร์นส์, คริส วู้ด
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
ต้องยอมรับว่าเริ่มหมดความอดทนสำหรับการตามติดเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล หลังโชว์ฟอร์มแผ่วหนักไร้ชัยรวด 4 หนท้ายในลีก (เสมอ 3, แพ้ 1) แถมสามเกมหลังสุดก็ยิงใครไม่ได้เลยสักประตูเดียว เรียกว่าเจอคู่แข่งซื้อเกมรับแน่นๆ ก็แทบจะทำอะไรไม่ได้ แถมโดนสวนแต่ละครั้งก็เล่นเอา อลิสซง เบ็คเกอร์ ต้องออกแรงเซฟอยู่เรื่อย อย่างไรก็ดีการลงบู๊ใน แอนฟิลด์ ต่อเนื่องกับการเผชิญหน้าคู่แข่งที่เป็นรองหนักมากอย่าง เบิร์นลี่ย์ ก็ไม่ใช่เรื่องยากในการเก็บสามแต้ม ถึงกระนั้นการผลิตสกอร์ถล่มทลายเหมือนก่อน อาจต้องรอการระบายวันหลัง เพราะอย่าลืมว่าโจทย์รายนี้ แพ้ใครไม่เคยขาดตลอด 4 เกมที่ผ่านมาด้วยสกอร์เพียง 0-1 เท่านั้น ประกอบกับหนล่าสุดที่เจอกันที่นี่ก็จบ 1-1 อีกด้วย เมื่อพิจารณาจากเรตสองเม็ดเอียงซ้าย ดูทรงแล้วสูงไปยากเกินเอื้อม
Mescore : เบิร์นลี่ย์ แพ้ 0-1
Meball โคปปา อิตาเลีย
ลาซิโอ -vs- ปาร์ม่า
ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม
10/01/21 ปาร์ม่า แพ้ ลาซิโอ 0-2
10/02/20 ปาร์ม่า แพ้ ลาซิโอ 0-1
23/09/19 ลาซิโอ ชนะ ปาร์ม่า 2-0
17/03/19 ลาซิโอ ชนะ ปาร์ม่า 4-1
21/10/18 ปาร์ม่า แพ้ ลาซิโอ 0-2
ลาซิโอ
เจ้าบ้าน ลาซิโอ เกมล่าสุดในศึก กรุงโรมดาร์บี้ แมตช์ พวกเขาไล่ถล่มโรม่าไปขาดลอย 3-0 ส่วนเกมนี้จะขาด ลูคัส เลว่า ที่ติดโทษแบนหมดสิทธิ์ลงสนาม แต่ยังมีข่าวดีเพราะจะได้ โมฮาเหม็ด ฟาเรส กับโจควิน กอร์เรอา ที่หายเจ็บกลับมาพร้อมลงสนามได้อีกครั้ง คาดว่า ซิโมเน่ อินซากี้ กุนซือใหญ่จะวางหมากในระบบ 3-5-2 คาดว่าพวกเขาจะโรเตชั่นผู้เล่นหลายรายมาร์โก ปาโรโล่, อันเดรียส เปเรย์ร่า, ฌ็อง อัคโปร และเวสลี่ย์ ฮู้ดต์ พร้อมลงสนามในเกมนี้ ส่วนแดนหน้าจะใช้บริการของ เวดัต มูริกี้ (9 นัด) กับ โจควิน กอร์เรอา (11 นัด / 1 ประตู) ลงล่าตาข่าย
ปาร์ม่า
ด้านทีมเยือน ปาร์ม่า ของเทรนเนอร์ โรแบร์โต้ ดา แวร์ซ่า ผลงานในลีกนั้นย่ำแย่หนักไม่ชนะใครมา 9 เกมติด ด้านความพร้อมวันนี้ คาดว่า ดา แวร์ซ่าจะโรเตชั่นผู้เล่นหลายราย แข้งสำรองอย่าง จาโคโม่ ริชชี่, ซิมง โซห์ม และแนวรับวัย 17 ปีอย่างดาน เดียร์ซ พร้อมลงบบู๊ในเกมนี้ ด้วยระบบ 4-3-3 โดยที่ 3 ประสานในแดนหน้าจะเป็น ฮวน บรูเน็ตต้า (6 นัด) , อันเดรียส คอร์เนลิอุส (14 นัด) และ แชร์วินโญ่ (14 นัด / 4 ประตู) คอยล่าตาข่ายในเกมนี้
ลาซิโอ (3-5-2) : เปเป้ เรน่า – เวสลี่ย์ ฮู้ดต์, ปาทริค, ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้ – มานูเอล ลาซซารี่, ฌ็อง อัคโปร, มาร์โก ปาโรโล่, อันเดรียส เปเรย์ร่า, โมฮาเหม็ด ฟาเรส – เวดัต มูริกี้, โจควิน กอร์เรอา
ปาร์ม่า (4-3-3) : ซิโมเน่ โคลอมบี้ – มักซิแม็ง บูซี่, ดาน เดียร์ซ, ซิโมเน่ ยาโปโปเน่, จาโคโม่ ริชชี่ – เอร์นานี่, วิลเลี่ยน ซีปรีย็อง, ซิมง โซห์ม – ฮวน บรูเน็ตต้า, อันเดรียส คอร์เนลิอุส, แชร์วินโญ่
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
เจ้าบ้าน ลาซิโอ แชมป์เก่าในรายการนี้ ฟอร์มแข็งแกร่งเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามเกมวันนี้พวกเขาจะโรเตชั่นผู้เล่นหลายราย แข้งหลักๆจะได้พักเกือบทั้งหมด ขณะที่ทีมเยือน ปาร์ม่า เปลี่ยนตัวกุนซือมาหมาดๆเกมล่าสุดก็เพิ่งบุกไปเจ๊าทีมแกร่งอย่าง ซัสซัวโล่ มา 1-1
เกมนี้เจ้าบ้านหมุนเวียนผู้เล่นลงสนาม และบอลถ้วยยังไงก็สูสีต่างฝ่ายต่างเล่นอย่างระวังและเป็นบอลกลางสัปดาห์แบบนี้มีเซฟแรงอย่างแน่นอน
Mescore เสมอ 1-1
Meball ลา ลีกา
เออิบาร์ -vs- แอต. มาดริด
ผลงานที่เคยพบกัน
19/01/20 เออิบาร์ – แอต. มาดริด 2-0
02/09/19 แอต. มาดริด – เออิบาร์ 3-2
20/04/19 เออิบาร์ – แอต. มาดริด 0-1
15/09/18 แอต. มาดริด – เออิบาร์ 1-1
21/05/18 แอต. มาดริด – เออิบาร์ 2-2
เออิบาร์
ไบรอัน กิล ต้องรอทดสอบความฟิต หากลงเล่นไม่ไหว ราฟา โซอาเรส จะได้ลงเล่นในตำแหน่งกองกลางด้านซ้าย ตามระบบ 4-4-2 คาดเซร์กี้ เอ็นริช และกิเก้ การ์เซีย
แอต. มาดริด
สัปดาห์ก่อน แอต.มาดริด อุธรณ์โทษแบนของคีแรน ทริปเปียร์ ไม่ประสบความสำเร็จ ทำให้ซิเม่ เวอร์ซัลโก้ จะได้ลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ็กด้านขวา มาริโอ เอร์โมโซ่ ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า น่าจะเป็นเฟลิเป้ ที่ลงเป็นหนึ่งในสามเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่อิปูรัว เกมรุกคาดเจา เฟลิกซ์ จะได้พักที่ม้านั่งข้างสนาม หากจำเป็นจะลุกจากม้านั่งสำรองเพื่อพลิกเกม แดนกลางจะไม่มีโคเก้ที่ติดโทษแบน คู่มิดฟิลด์ตัวกลางนัดนี้เป็นซาอูล และมาร์กอส ยอเรนเต้ ขณะที่มุสซ่า เดมเบเล่ กองหน้าตัวใหม่ยังไม่ฟิต
เออิบาร์ (4-4-2): มาร์โก ดิมิโทรวิช; อเลฮานโดร โปโซ่, เปาโล โอลิเวร่า, เปโดร บิกัส, อนาอิตซ์ อาร์บิย่า; ทากาชิ อินูอิ, ปาเป้ ดิย็อป, เอดู เอ็กซ์โปซิโต้, ไบรอัน กิล; เซร์กี้ เอ็นริช, กิเก้ การ์เซีย
แอต. มาดริด (3-4-3): แยน โอบลัค; สเตฟาน ซาวิช, โฮเซ่ ฆิเมเนซ, เฟลิเป้; ซิเม่ เวอร์ซัลโก้, ซาอูล ญิเกซ, มาร์กอส ยอเรนเต้, ย็องนิค การ์รัสโก้; อังเคล กอร์เรอา, หลุยส์ ซัวเรซ, โตมาส์ เลอมาร์
ทรรศนะ เดวิด พาRuay
เออิบาร์ (18 นัด ชนะ 4 เสมอ 7 แพ้ 7 ได้ 15 เสีย 18) ชนะได้แค่นัดเดียวในลา ลีกา 7 เกมหลัง (แพ้ 3) ขณะที่ในบ้านในลาลีกาเพิ่งจะชนะได้แค่เกมเดียวตั้งแต่เปิดซีซั่น นัดนี้เจอกับกระดูดแข็งโป๊กอย่าง แอต. มาดริด (16 นัด ชนะ 13 เสมอ 2 แพ้ 1 ได้ 31 เสีย 6) ที่ทำฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ผลงาน 13 นัดหลังชนะถึง 12 (แพ้ 1) ตามฟอร์มแอต. มาดริด ดูดีกว่า และแน่นอนกว่าเยอะ มีทั้งเกมรับที่แข็งแกร่ง เกมรุกที่เฉียบคม น่าจะบุกมาคว้าสามแต้มกลับไป
Mescore : แอต. มาดริด ชนะ 2-0
