วิเคราะห์โปรแกรมบอลประจำค่ำคืนวันที่ 16 มกราคม 2564

Meball บุนเดสลีก้า
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ -vs- ไมนซ์

ผลงานที่เคยพบกัน

18/06/20 ดอร์ทมุนด์ แพ้ ไมนซ์ 0-2
11/01/20 ดอร์ทมุนด์ แพ้ ไมนซ์ 0-2
14/12/19 ไมนซ์ แพ้ ดอร์ทมุนด์ 0-4
13/04/19 ดอร์ทมุนด์ ชนะ ไมนซ์ 2-1
24/11/18 ไมนซ์ แพ้ ดอร์ทมุนด์ 1-2

ดอร์ทมุนด์

จะไม่มีธอร์แกน อาซาร์ตัวทำเกม มาร์แซล ชเมลเซอร์ ปราการหลัง และอักเซล วิทเซิล กองกลางที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่จู๊ด เบลลิงแฮม ต้องรอทดสอบความฟิต 11 ตัวแรกเกมนี้น่าจะเป็นชุดเดิมที่บุกไปชนะไลป์ซิก 3-0 มีเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่ระเบิดฟอร์มยิงไลป์ซิก 2 ประตูลงเป็นกองหน้าตัวเป้า ด้านหลังมีมาร์โก รอยส์ (2 แอสซิสต์นัดล่าสุด) และเจดอน ซานโช่ ที่ปีนี้เพิ่งจะทำไป 2 ประตูในบุนเดสลีกา แต่เกิดขึ้นใน 2 เกมหลังสุด น่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้แล้วเป็นตัวทำเกมด้านหลัง

ไมนซ์

ฝั่งไมนซ์ทีมเยือนเกมนี้จะไม่มีคุนเด้ มาล็อง ที่เจ็บเข่า ขณะที่เจอร์รี่ เซนต์ จุสต์กองหลังชาวดัตช์ ต้องรอทดสอบความฟิตการบาดเจ็บที่ต้นขา

คาดอาจจะมีการปรับเปลี่ยนบางตำแหน่งหลังจากที่ล่าสุดแพ้แฟร้งค์เฟิร์ตคาบ้าน 0-2 เกมรุกตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า ฌ็อง ฟิลิปป์ มาเตต้า ที่สามสี่นัดหลังเป็นตัวสำรองน่าจะกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง

ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1): โรมัน บูร์กี้; โธมัส เมอนิเย่ร์, มานูเอล อคานยี่, มัตส์ ฮุมเมิลส์, ราฟาเอล เกร์เรโร่; เอ็มเร่ ชาน, โธมัส เดลานีย์; เจดอน ซานโช่, มาร์โก รอยส์, โจ เรย์น่า; เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

ไมนซ์ (4-2-3-1): โรบิน เซนท์เนอร์; ดาเนียล โบรซินสกี้, สเตฟาน เบลล์, อเล็กซานเดอร์ ฮัค, มุสซ่า เนียกาเต้; ดานนี่ ลัตซ่า, เลอันโดร บาร์เรโร่; โจนาธาน เบอร์คาร์ดท์, เควิน สโตเกอร์, ฌ็อง โบตุส; ฌ็อง ฟิลิปป์ มาเตต้า

ทรรศนะเดวิด พาRuay

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (15 นัด ชนะ 9 เสมอ 1 แพ้ 5 ได้ 31 เสีย 19) เริ่มจะเข้ารูปเข้าร่างแล้ว ภายใต้การนำของกุนซือใหม่ เกมล่าสุดเจอของแข็งอย่างไลป์ซิกแต่ก็บุกไปชนะได้อย่างอลังการ 3-0 การประสานงานกันระหว่างตัวหลักอย่างฮาลันด์, รอยส์ และซานโช่ ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ขณะที่ไมนซ์ (15 นัด ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 11 ได้ 14 เสีย 33) เกมล่าสุดพ่ายแฟร้งค์เฟิร์ต คาบ้าน สถานการณ์ลุ้นอยู่รอดดูท่าว่าจะยุ่งไปกันใหญ่ นัดนี้มาเจอดอร์ทมุนด์ ที่ตัวหลักๆ กลับมาหด เกมบุกกลับมาฮอตอีกครั้ง เห็นทีว่าไมนซ์นัดนี้จะรอดยาก

Mescore : ดอร์ทมุนด์ ชนะ 3-0

Meball พรีเมียร์ลีก
ฟูแล่ม -vs- เชลซี

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

03/03/19 ฟูแล่ม แพ้ เชลซี 1-2
02/12/18 เชลซี ชนะ ฟูแล่ม 2-0
01/03/14 ฟูแล่ม แพ้ เชลซี 1-3
22/09/13 เชลซี ชนะ ฟูแล่ม 2-0
18/04/13 ฟูแล่ม แพ้ เชลซี 0-3

ฟูแล่ม

ฟูแล่ม ของกุนซือ สกอตต์ ปาร์คเกอร์ เพิ่งจะบุกเจ๊า สเปอร์ส 1-1 ในบอลลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับสภาพทีมล่าสุดก่อนลงสนาม จะหมดสิทธิ์ใช้งาน รูเบ็น ลอฟตัส-ชี๊ค แดนกลางตัวยืมที่ติดเงื่อนไขห้ามลงพบต้นสังกัดแม่ คาดว่า ปาร์คเกอร์ เตรียมวางหมากในระบบ 3-5-2 โดยมี อิวาน คาวาไลโร่ กับ อเดโมล่า ลุคแมน ควงคู่กันล่าสกอร์ในแดนหน้า นั่นหมายความว่า อเล็คซานดาร์ มิโตรวิช ที่มีปัญหาเรื่องความฟิตน่าจะมีชื่อเป็นเพียงสำรองเท่านั้น

เชลซี

เชลซี ของกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ มอร์แคมบ์ 4-0 ในศึก เอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับสภาพทีมล่าสุดก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามารบกวนเพิ่มเติม นอกเสียจาก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กลางรับจอมเก๋าที่เหลือโทษแบนเดิมอีกหนึ่งนัด คาดว่า แลมพาร์ด เตรียมจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยมี ฮาคิม ซิเย็ค, ติโม แวร์เนอร์ กับ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ตามระเบียบ

ฟูแล่ม (3-5-2) : อัลฟงเซ่ อาเรโอล่า – โอล่า ไอน่า, โยอาคิม แอนเดอร์เซ่น, โตซิน อดาราบิโอโย่ – เคนนี่ เตเต้, บ๊อบบี้ เด คอร์โดวา-รี๊ด, แฮร์ริสัน รี๊ด, อ็องเดร-ฟร้องค์ ซ็อมโบ้ อ็องกิสซ่า, แอนโทนี่ โรบินสัน – อิวาน คาวาไลโร่, อเดโมล่า ลุคแมน

เชลซี (4-3-3) : เอดูอาร์ ม็องดี้ – เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, เคิร์ต ซูม่า, ธิอาโก้ ซิลวา, เบ็น ชิลเวลล์ – มาเตโอ โควาซิช, บิลลี่ กิลมัวร์, เมสัน เม้าต์ – ฮาคิม ซิเย็ค, ติโม แวร์เนอร์, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย

ทรรศนะ เดวิด พาRuay

สงสัยว่า ฟูแล่ม จะกลายเป็น “เจ้าสัวจอมเสมอ” ไปแล้ว เพราะตลอด 5 เกมลีกที่ผ่านมาจบเจ๊าไม่เร้าหรือรวด ไม่ว่าจะเป็นทีมเล็กทีมใหญ่พวกเขายันเสมอมาได้หมด ทั้ง ลิเวอร์พูล, เซาท์แฮมป์ตัน หรือ สเปอร์ส ฉะนั้น “ลอนดอน ดาร์บี้” คราวนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับแทคติกซื้อเกมรับของ สกอตต์ ปาร์คเกอร์ อีกทั้ง เชลซี ก็ค่อนข้างมีเกมเยือนที่แย่จัดปลัดบอก หลังพ่ายรวด 3 หนซ้อนและโดนทะลวงแนวรับยับเยินร่วมๆ 6 เม็ดเลยทีเดียว แถมฟอร์มเกมลีก 3 นัดล่าสุดก็ยังไม่ชนะใครสักเกม (เสมอ 1, แพ้ 2) ครั้นจะฝากความหวังให้พังสกอร์เก็บชัยแบบเน้นๆ น่าจะลุ้นกันเหนื่อยหน่อย

Mescore : ฟูแล่ม เสมอ 0-0

Meball พรีเมียร์ลีก
เลสเตอร์ -vs- เซาท์แฮมป์ตัน

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

11/01/20 เลสเตอร์ แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 1-2
26/10/19 เซาท์แฮมป์ตัน แพ้ เลสเตอร์ 0-9
12/01/19 เลสเตอร์ แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 1-2
28/11/18 เลสเตอร์ เสมอ เซาท์แฮมป์ตัน 0-0 / ลีก คัพ
25/08/18 เซาท์แฮมป์ตัน แพ้ เลสเตอร์ 1-2

ลสเตอร์

เลสเตอร์ ของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพิ่งจะบุกถล่ม สโต๊ค 4-0 ในศึก เอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง จะไร้เงา เดนนิส ปราเอ้ต์ แดนกลางเลือดเบลเยียม ซึ่งเดี้ยงอยู่เพียงรายเดียวเท่านั้น ขณะที่พวกแข้งเช็คฟิตบางส่วนน่าจะพอลงเล่นได้ทันเวลา คาดว่า ร็อดเจอร์ส เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยมี เจมี่ วาร์ดี้ ยืนหน้าล่าตาข่ายและใช้ มาร์ก อัลไบรจ์ตัน, เจมส์ แม็ดดิสัน กับ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เป็นสามประสานกลางรุกคอยซัพพอร์ตอยู่ด้านหลัง

เซาท์แฮมป์ตัน

เซาท์แฮมป์ตัน ของกุนซือ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เพิ่งจะเปิดรังเชือด ลิเวอร์พูล 1-0 ปลดล็อคหลังไร้ชัยยาวสี่แมตช์ก่อนหน้านี้ สำหรับความพร้อมของทีมล่าสุด จะไม่สามารถใช้งาน แดนนี่ อิงส์ หัวหอกตัวเก่งที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และอยู่ในระหว่างพักรักษาตัว ส่วนพวก ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, มูสซ่า เฌเนโป, นาธาน เร้ดม่อนด์ และ ไมเคิ่ล โอบาเฟมี่ คือเหล่าแข้งเดี้ยงที่ไม่มีชื่อแน่นอน คาดว่า ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เตรียมจัดทัพในแผนการเล่น 4-4-2 โดยมี เช อดัมส์ กับ เชน ลอง ควงคู่ล่าสกอร์ในแดนหน้าตามสูตร

เลสเตอร์ (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – เจมส์ จัสติน, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, ติโมธี่ กาสตาญ – วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูรี่ ตีเลอม็องส์ – มาร์ก อัลไบรจ์ตัน, เจมส์ แม็ดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ – เจมี่ วาร์ดี้

เซาท์แฮมป์ตัน (4-4-2) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ – ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, แยน เบ็ดนาเร็ค, แจ็ค สตีเฟ่นส์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ – สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, อิบราฮิม่า ดิยัลโล่, ธีโอ วัลค็อตต์ – เช อดัมส์, เชน ลอง

ทรรศนะ เดวิด พาRuay

          เชื่อว่านัดนี้ทีมเยือน เซาท์แฮมป์ตัน จะไม่โชคช่วยเหมือนเกมที่เปิดรังเชือด ลิเวอร์พูล 1-0 อย่างแน่นอน เพราะการขึ้นนำไวและซื้อเกมรับอันเหนียวแน่น ไม่สามารถทำได้ทุกครั้ง ขณะที่การเผชิญหน้ากับคู่แข่งในระดับเดียวกัน จะมัวมานั่งตั้งรับแล้วรอโต้ก็ดูจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก อย่างไรก็ดีด้านเจ้าบ้าน เลสเตอร์ ก็กำลังเครื่องร้อนพร้อมช้อนหน้าแกง หลังกำชัย 3 จาก 5 หนท้ายทุกรายการแบบไม่แพ้ใคร (เสมอ 2) และผลิตสกอร์ต่อเนื่องรวมทั้งสิ้น 11 ประตูเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นสภาพความพร้อมของทั้งคู่ก็เป็นเจ้าถิ่นที่เหนือกว่าชัดเจน ขณะที่ทีมเยือนไร้เงาแกนหลักอย่าง แดนนี่ อิงส์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด และ มูสซ่า เฌเนโป ในเวลาเดียวกัน ดูทรงแล้วน่าจะต้านทานความแข็งแกร่งของ “จิ้งจอกสยาม” ยากอยู่

Mescore : เลสเตอร์ ชนะ 2-1

วันนี้บอลเยอะเอาทีเด็ดไปอีกซัก 3 คู่แล้วกัน เดวิด ใจดีถือว่าแถม

ลีดส์ ชนะ ไบร์ทตัน 2-1
ซามพ์โดเรีย ชนะ อูดิเนเซ่ 2-1 
เบรเมน เสมอ เอ๊าก์สบวร์ก 1-1

จัดไปอย่าให้เสียครับวันนี้ เจอกันพรุ่งนี้มีแดงเดือดด้วย

Facebook
Twitter
WhatsApp
Email

บทความที่เกี่ยวข้อง