วิเคราะห์โปรแกรมบอลประจำค่ำคืนวันที่ 8 มกราคม 2564

Meball เอฟเอ คัพ
วูล์ฟส์ -vs- คริสตัล พาเลซ

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

31/10/20 วูล์ฟส์ ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0
21/07/20 วูล์ฟส์ ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-0
22/09/19 คริสตัล พาเลซ เสมอ วูล์ฟส์ 1-1
03/01/19 วูล์ฟส์ แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-2
06/01/18 คริสตัล พาเลซ แพ้ วูล์ฟส์ 0-1

วูล์ฟส์

วูล์ฟส์ ของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เพิ่งจะบุกเจ๊าเดือด ไบรท์ตันฯ 3-3 ทำให้สี่เกมลีกท้ายยังไม่ชนะใคร สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม จะไม่มีชื่อ ราอูล ฆิเมเนซ, ดาเนี่ยล โปเดนซ์, แฟร์นานโด มาร์ชาล และ จอนนี่ กาสโตร สี่แข้งเดี้ยงที่ไม่สามารถลงเล่นได้แน่นอน คาดว่า เอสปิริโต้ ซานโต เตรียมวางหมากในระบบ 3-4-1-2 โดยมี ฟาบิโอ ซิลวา กับ อดาม่า ตราโอเร่ ควงคู่ล่าสกอร์ในแดนหน้าและใช้ วิตินโญ่ รับจ๊อบสร้างสรรค์เกมอยู่ด้านหลังตามระเบียบ

คริสตัล พาเลซ

คริสตัล พาเลซ ของกุนซือ รอย ฮ็อดจ์สัน เพิ่งจะเปิดรังเอาชนะ เชฟฯยูฯ 2-0 สำหรับความพร้อมของทีมก่อนทำศึก จะไร้เงา เจฟฟรี่ย์ ชลุ๊ปป์, คอนเนอร์ วิคแฮม, นาธาน เฟอร์กูสัน, แกรี่ เคฮิลล์, มาร์ติน เคลลี่ กับ เวย์น เฮนเนสซี่ย์ เหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงที่ยังไม่หายดี คาดว่า ฮ็อดจ์สัน เตรียมวางหมากในระบบ 4-4-2 โดยมี วิลฟรีด ซาฮา กับ มิชี่ บัตชูอายี่ ผนึกกำลังกันล่าสกอร์ในแดนหน้าและใช้ ไยโร่ รีเดวัลด์ กับ เจมส์ แม็กคาร์ธี่ ปักหลักคุมกลางตามสูตร

วูล์ฟส์ (3-4-1-2) : จอห์น รัดดี้ – แม็กซิมิเลี่ยน คิลแมน, คอเนอร์ โคอาดี้, โรแม็ง ซาอิสส์ – เนลสัน เซเมโด้, เชา มูตินโญ่, รูเบน เนเวส, รายาน ไอต์ นูรี่ – วิตินโญ่ – ฟาบิโอ ซิลวา, อดาม่า ตราโอเร่

คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : แจ็ค บัตแลนด์ – นาธาเนี่ยล ไคลน์, เจมส์ ทอมกิ้นส์, มามาดู ซาโก้, ไทริค มิตเชลล์ – แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์, ไยโร่ รีเดวัลด์, เจมส์ แม็กคาร์ธี่, เอเบเรชี่ เอเซ่ – วิลฟรีด ซาฮา, มิชี่ บัตชูอายี่

ฟอร์มผีเข้าผีออกสำหรับพาเลซ วันนี้ไม่น่าต้านวูล์ฟไหว

ทรรศนะ เดวิด พาRuay

ต้องยอมรับว่าเจ้าบ้าน วูล์ฟส์ ช่วงนี้อาการไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่ทว่าผลงานนัดล่าสุดที่เจ๊าเดือด ไบรท์ตันฯ 3-3 ถือเป็นคราวซวยและความผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยทั้งที่นำไปก่อน 3-1 อย่างไรก็ดีสถิติการพบกันสองหนท้าย ณ โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม ก็เป็นฝ่ายคว้าชัยไปด้วยสกอร์ 2-0 ทั้งสองเกม สอดคล้องกับด้านทีมเยือน คริสตัล พาเลซ เองค่อนข้างแย่ไม่แพ้กัน แม้ล่าสุดจะเพิ่งเอาชนะ เชฟฯยูฯ 2-0 แต่ก็เป็นการตบทีมบ๊วยของลีกเท่านั้น ซึ่งมาตรฐานกับฟอร์มของคู่แข่งแย่ยิ่งกว่าพวกเขาเสียอีก ขณะที่สองสามนัดก่อนหน้ากลับแพ้ยับให้กับ ลิเวอร์พูล 0-7 และ แอสตัน วิลล่า 0-3 บ่งชี้ถือสภาพเกมรับที่แย่อย่างไม่ต้องสงสัย

Mescore : หมาป่าชนะ 2-1

Meball เอฟเอ คัพ
แอสตัน วิลล่า-vs- ลิเวอร์พูล

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

05/10/20 แอสตัน วิลล่า ชนะ ลิเวอร์พูล 7-2
05/07/20 ลิเวอร์พูล ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0
18/12/19 แอสตัน วิลล่า ชนะ ลิเวอร์พูล 0-5 / ลีก คัพ
02/11/19 แอสตัน วิลล่า แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
14/02/16 แอสตัน วิลล่า แพ้ ลิเวอร์พูล 0-6
26/09/15 ลิเวอร์พูล ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-2

แอสตัน วิลล่า

          แอสตัน วิลล่า ของกุนซือ ดีน สมิธ เพิ่งจะบุกพ่ายให้กับ แมนฯยู 1-2 ทำให้สองเกมหลังสุดในลีกยังไม่ชนะใคร สำหรับความพร้อมของทีมก่อนลงสนาม ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม เว้นเสียจาก เทรเซเก้ต์ กับ เวสลี่ย์ สองแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคที่ยังไม่หายดี คาดว่า สมิธ เตรียมโรเตชั่นจัดทัพในระบบการเล่น 4-3-3 โดยมี เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่, ไคแนน เดวิส กับ อันวาร์ เอล กาซี่ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ตามสูตร

ลิเวอร์พูล

          ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะพ่ายให้กับ เซาท์แฮมป์ตัน 0-1 ในลีกสดๆ ร้อนๆ สำหรับสภาพทีมล่าสุดก่อนทำศึก ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจาก 6 แข้งเดี้ยงที่ยังอยู่ในระหว่างการพักรักษาตัวทั้งหมด คาดว่า คล็อปป์ เตรียมโรเตชั่นไม่ต่างกันในระบบ 4-3-3 โดยมี เซอร์ดาน ชากิรี่, ทาคูมิ มินามิโนะ กับ ดิว๊อค โอริกี้ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า รับจ๊อบคุมกลางตามระเบียบ

แอสตัน วิลล่า (4-3-3) : ทอม ฮีตัน – เฟรเดริก ชีลแบร์, อาห์เหม็ด เอล โมฮามาดี้, คอร์ตนี่ย์ เฮ้าส์, นีล เทย์เลอร์ – จาค็อบ แรมซี่ย์, มาร์เวลัส นากัมบ้า, คอเนอร์ ฮูริฮาน – เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่, ไคแนน เดวิส, อันวาร์ เอล กาซี่

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์ – เนโก้ วิลเลี่ยมส์, นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – เคอร์ติส โจนส์, ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน – เซอร์ดาน ชากิรี่, ทาคูมิ มินามิโนะ, ดิว๊อค โอริกี้

ทรรศนะ เดวิด พาRuay

          บอกเลยว่าเวลานี้หากวัดกันในชุดเต็มสูบ คงไม่กล้าเชียร์ ลิเวอร์พูล ไปอีกพักใหญ่ อย่างไรก็ดีการเผชิญหน้ากันในฉบับโรเตชั่นก็มีสิทธิ์ที่อาคันตุกะจะบุกชนะได้เหมือนกัน และต้องยอมรับว่าขุมกำลังชุดเสริมของเจ้าบ้าน แอสตัน วิลล่า เป็นรองชัดเจนและน่าจะต้านทานความจัดจ้านของเหล่าบรรดาเกมรุก “หงส์แดง” ที่กระหายสนามไม่ไหว

เชื่อว่าระดับ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่น่าจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ 2-7 ซ้ำแน่นอน หรือลากยาวจบเจ๊าไปลุ้นกันใหม่ในนัดรีเพลย์ให้เสียแรงฟรี

ลิเวอร์พูลจะเอาคืนเกมที่พ่าย 7-2 ได้อย่างแน่นอน

Mescore : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1

Meball บุนเดสลีก้า
กลัดบัค -vs- บาเยิร์น

ผลงานการพบกันของทั้งสองทีม

13/06/20 บาเยิร์น ชนะ กลัดบัค 2 – 1
07/12/19 กลัดบัค ชนะ บาเยิร์น 2 – 1
03/03/19 กลัดบัค แพ้ บาเยิร์น 1 – 5
06/10/18 บาเยิร์น แพ้ กลัดบัค 0 – 3
14/04/18 บาเยิร์น ชนะ กลัดบัค 5 – 1

กลัดบัค

เจ้าบ้านพลพรรค “สิงห์หนุ่ม” ฟอร์ม 5 เกมหลังสุดเก็บชัยไปได้เพียงแค่นัดเดียวเท่านั้น ด้านสภาพความพร้อมวันนี้ พวกเขาจะไม่มี มาร์คุส ตูราม แนวรุกที่ติดโทษแบนหมดสิทธิ์ลงสนาม ส่วนแข้งเดี้ยงมีแค่ วาเลนติโน่ ลาซาโร่ รายเดียวเท่านั้น เกมนี้คาดว่า มาร์โก โรเซ่ กุนซือใหญ่จะวางหมากในระบบ 4-2-3-1 แดนกลางมี คริสตอฟ คราเมอร์ กับ ฟลอเรียน นอยเฮ้าส์ คอยบัญชาเกม ส่วนแผงตัวรุกจะมี บรีล เอ็มโบโล่ (12 นัด / 3 ประตู)กับ ลาร์ส สตินเดิ้ล (14 นัด / 8 ประตู) คอยสร้างสรรค์เกมสนับสนุนกองหน้าตัวเป้าอย่าง อาลาสซาเน่ เปลีย (11 นัด / 2 ประตู) ลงล่าตาข่ายในเกมนี้

บาเยิร์น มิวนิค

ด้านทีมเยือน ทัพ “เสือใต้” ของกุนซือ ฮันซี่ ฟลิค เก็บชัยมาได้ 3 เกมติดและยังคงรั้งจ่าฝูงของตาราง ด้านความพร้อมวันนี้พวกเขาจะไม่สามารถใช้งาน ต็องกี้ย์ นิอ็องซู แค่รายเดียว ส่วนในรายของ เเซร์จ จีนาบรี้, มาร์ค โรก้า นั้นต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนาม ทำให้เกมนี้คาดว่า คิงส์ลี่ย์ โกม็อง จะได้โอกาสลงปั่นป่วนทางริมเส้นแทนที่ จีนาบรี้ ส่วนอีกฝั่งเป็น เลรอย ซาเน่ โดยมี โธมัส มุลเลอร์ (14 นัด / 6 ประตู) คอยต่อบอลสนับสนุนกองหน้าตัวเป้าอย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (13 นัด / 19 ประตู) ลงล่าตาข่ายในเกมนี้ 

กลัดบัค (4-2-3-1) : ยาน ซอมเมอร์ – สเตฟาน ไลเนอร์, มัตธิอัส กินเตอร์, นิโก้ เอลเวดี้, ออสการ์ เวนด์ – คริสตอฟ คราเมอร์, ฟลอเรียน นอยเฮ้าส์ – บรีล เอ็มโบโล่, ลาร์ส สตินเดิ้ล, โจนาส ฮอฟมันน์ – อาลาสซาเน่ เปลีย

บาเยิร์น (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ – นิคลาส ซูเล่, เฌอโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อัลฟองโซ่ เดวี่ส์ – โจชัว กิมมิค, เลออน โกเร็ตส์ก้า – เลรอย ซาเน่, โธมัส มุลเลอร์, คิงส์ลี่ย์ โกม็อง – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

ทรรศนะ เดวิด พาRuay

เจ้าบ้านพลพรรค “สิงห์หนุ่ม” เกมล่าสุดเพิ่งบุกไปเชือด บีเลเฟลด์ 1-0 เก็บชัยได้เสียทีหลังก่อนหน้านี้ไม่ชนะใครมา 4 เกมติด ขณะที่ทีมเยือน บาเยิร์น มิวนิค ฟอร์มกำลังดุดันเก็บชัยมาได้ 3 เกมติดโดยเฉพาะนัดล่าสุดที่โดนไมนซ์ ขึ้นนำไป 2-0 ก่อนจะพลิกนรกรัวแซงชนะ 5-2 ได้สำเร็จ ฟอร์มกำลังฮึกเหิมเป็นอย่างมาก เรทราคาเปิดออกมาให้ “เสือใต้” บุกต่อ 1 ลูก (ลบสิบ) พิจารณาแล้วแนะนำให้อยู่ ต่อ ทีมเยือนดีกว่าครับ บาเยิร์น เกมรุกยังคงเฉียบคมยิ่งเกมล่าสุดพวกเขาเร่งเครื่องไล่กระซวกไส้ ไมนซ์ ไปถึง 5-2 เชื่อว่าเกมนี้น่าจะไล่บี้เอาชนะเจ้าถิ่นได้อย่างแน่นอน ดังนั้นแนะนำให้อยู่ฝั่งต่อโอกาสเฮรับทรัพย์มีมากกว่าครับ

Mescore : บาเยิร์น ชนะ 2-0

บาเยิร์น มิวนิค ร้อนแรงตามระเบียบ
Facebook
Twitter
WhatsApp
Email

บทความที่เกี่ยวข้อง