หงส์สะดุด ทีมตามลูบปาก
เรียกว่าโครงการ “คนตามไม่ท้อ คนรอไม่ทิ้ง” ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแรง หลังจากลิเวอร์พูลสะดุดเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน โดยคราวนี้ถึงแพ้เลยทีเดียว หลังบุกไปโดน เซาท์แฮมป์ตันกดดับ 1-0 ตั้งต้นเกมโดย แดนนี่ อิงส์ เด็กเก่าตัวเอง
ซึ่งในเกมมีดราม่ามากมายทั้ง มาเน่ โดยเสียบในเขตโทษ กองหลังนักบุญโดนบอลยิงอัดมือในเขตโทษ แต่ลิเวอร์พูลไม่ได้จุดโทษ จนท้ายเกม คล็อปป์ถึงกับบ่นว่า “2 ปีที่ผ่านมาแมนยูได้จุดโทษเยอะกว่า ผม 5 ปีซักอีก” ซึ่งทำเอางงกันไปหมดว่าจะไปอ้างอิงถึงทำไม เรียกว่า เตะกับเซาท์สะเทือนถึงแมนฯ ยู
เรียกว่าหลังจากถล่ม พาเลซมาก็เหมือนกระสุนหมด คือทั้งเกม 90 นาที กับเซาท์ ลิเวอร์พูลยิงเข้ากรอบแค่ครั้งเดียว แถมไอเดียของ 3 ตัวรุกก็ดูเหมือนจะไม่มี ทำอะไรก็ดูทื่อ ๆ จ่ายบอลเสียกันง่าย ๆ ตั้งแต่ประตูยันกองหน้า
เท่านั้นไม่พอ เทรน อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ นอกจากพลาดจังหวะเสียประตูแล้ว ยังมีสถิติทำบอลเสียถึง 38 ครั้งในเกมนี้เกมเดียว มากที่สุดของทั้งลีกในซีซํ่นนี้เลย
ผลออกมาแบบนี้ทำให้ลิเวอร์พูลแข่งมากกว่าปิศาจแดง 1 นัด แต่แต้มเท่ากัน พวกทีมตามที่เหลือก็จี้มาติด ๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามอยู่ 4 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 2 นัด นั่นหมายความว่าาาาา… ถ้า 2 ทีมแมนเชสเตอร์ เก้บวแปร์เกมตกค้างได้ จะทำคะนแนแซงหงส์แดงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงและรองจ่าฝูงทันที
ผีกำลังแรง พาRuay รัว ๆ
ย้อนกลับเมื่อคืนวันเสาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเจอกับแอสตัน วิลล่าที่กำลังร้อนแรงสุด ๆ ทั้งทีม ทั้งแจ็ค กรีลิช
ปิศาจมาด้วยระบบ 4-4-2 ไดมอนด์ แต่มีก็รายละเอียดท้ายเกมที่ ยืนเหมือน 4-2-2-2 เกมนี้ลงสนามครบทั้งป็อกบา ,แมคโทมิเนย์ ,เฟรด และบรูโน่ แฟร์นันส์ ลงกันครบครัน
ซึ่งบอกเลยว่าเกมนี้ปิศาจแดงเล่นกันได้ดีมาก ๆ อีกเกมหนึ่ง เกมรุกลื่นไหล พอล ป็อกบา เล่นแบบที่ทุกคนอยากเห็น มีความสุข เติมเกมบุกเต็มที่ ลีลาการหลอก มีประโยชน์ ที่จะดูน่าหงุดหงิดก็เห็นจะมีแต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กระชากยิงเองเยอะไปหน่อย แต่ก็ตามทรง
เกมนี้ปิศาจแดงออกนำไปก่อนจากจะังหวะทำเร็วกันสวย ๆ แรชฟอร์ดแตะจังหวะเดียวให้ วาน บิสซาก้า หลุดขึ้นไปคอรสให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล บิดหัวโขกเข้าไปแบบแน่นอนมาก ๆ เพราะช็อตนี้มันเล่นยากเหลือเกิน ก่อนที่แจ็ค กรีลิช จะมาจ่ายให้ ตราโอเร่ ยิงตีเสมอในช่วงกลางครึ่งหลัง
จนมาถึงจังหวะดราม่า เมื่อป็อกบา รับบอลทุ่มมาจาก ลุค ชอว์ พลิกเข้าเขตโทษแล้วโดนแซะล้มลงไป แต่จากภาพช้ามันเหมือนป็อกบาสะดุดขาตัวเอง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น VAR ให้จุดโทษแก่แมนฯ ยูไนเต็ด และบรูโน่ แฟร์นันส์ กดเข้าไปแบบโหด ๆ ให้ทีมคว้า 3 แต้มไปได้ และอย่างที่กล่าวไปข้างบนนั่นแหละ แมนฯ ยู ตามเท่าแข่งน้อยกว่า ตอนนี้ทุกอย่างในกำมือปิศาจแดงแล้ว โมเมนตั้มกำลังมา ต้องรักษาฟอร์มพา Ruay แบบนี้ไว้ให้ได้
เชลซี สิงห์ลำบาก ส่วนปืนใหญ่เริ่มมาแล้วนะจ๊ะ
อีกคู่ บิ๊ก แมตช์ ประจำสัปดาห์ เชลซี ที่ฟอร์มเริ่มกลับมา เปิดบ้านเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ติดโควิด-19 ไปครึ่งทีม ทำให้ เควิน เดอ บรอย ต้องขึ้นไปเล่นศูนย์หน้า ในลักษณะ ฟอล ไนท์ และส่ง ฟิล โฟเด้น และ อเล็กซานโดร ชินเซนโก้ ลงประจำกราบซ้าย ส่วนเชลซี ติโม แวร์เนอร์ เจ้าของสถิติยิงไม่ได้ 11 เกมติดต่อกัน นำทัพในตำแหน่งหน้าเป้า และการกลับมาของ ฮาคิม ซิเย็ค
แต่ที่ไหนได้ เรือใบสีฟ้าใช้เวลาแค่ 34 นาที ก็ปิดเกมเป็นที่เรียบร้อย อิลคาย กุยโดกัน ,ฟิล โฟเด้น และ เควิน เดอ บรอย ช่วยกันอัดคนล่ะเม็ดให้ แมน ฯ ซิตี้ นำ 3-0 เรียกว่า สู้ไม่ได้ ยังดีที่ ฮัดสัน-โอดอย มายิงประตูติดไม้ติดมือกลับบ้านไปได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
ส่วนอาร์เซน่อลหลังจากโชว์รั่วมาพักใหญ่ก็เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทาง ล่าสุดบุกยำ เวสบรอมวิช อัลเบี้ยนไป 0-4 คีแรน เที่ยร์นี่ ,บูกาโย่ ซาก้า และ ลากาแซ็ต เหมา 2 ลูก ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 11 มี 23 คะแนน
อีกทีมที่กลับมาชนะได้เสียทีคือ ท็อทแน่ม ฮอท สเปอร์ส โดยเปิดบ้านตบลีดส์ไป 3-0 เกมนี้ก็ค่อนข้างตามฟอร์ม บอลบุก กับบอลตั้งรับระดับิาจารย์ มันเลยเข้าทาง แฮรี่ เคน ยิง 1 จ่าย 1 ให้ซอนยิงอีกลูก ส่วนลูกสุดท้ายเป็น โทบี้ อัลเดอร์ไวเรล ทำให้ไก่เดือยทอง ยังอยู่อันดับ 4 มี29 แต้ม เท่าแมน ซิตี้แต่แข่งมากกว่า 1 นัด ส่วนเชลซี ไหลลงมาอยู่ที่ 9 มี 26 คะแนน
บอกเลยว่า พรีเมียร์ลีกปีนี้ มันเบียดกันเหลือกัน คะแนนไม่ได้ทิ้งกันเท่าไหร่ อันดับ 1-10 ยังเบียดกันได้ทุกทีม เรียกว่าสนุกที่สุดในรอบหลายปีเลยทีเดียว
เอาล่ะ สถานยการณ์พรีเมียร์ลีกก็มีเพียงเท่านี้ เราก็จะติดตามแบบนัดต่อนัดกันต่อไปตลอดฤดูกาล แล้วเด่วยังไงเดวิด จะวิเคราะห์ หรืออัพเดท และวิเคราะห์ข่าวสาร รวมถึงสถานการณ์ในวงการฟุตบอลอย่างเข้มข้นยิ่งกว่าเดิมแน่นอน สำหรับปี 2021 นี้ อาจจะช้าไปซักหน่อย แต่ สวัสดีปีใหม่ครับ