วิเคราะห์โปรแกรมบอลประจำค่ำคืนวันที่ 4 มกราคม 2564

เดวิด มาแล้วคร้าบ วันนี้มีคู่เด็ดอีกแล้ว เซาท์แฮมป์ตัน กับ ลิเวอร์พูล คู่นี้สำคัญมาก ๆ กับตารางพรีเมียร์ลีก บอกเลยว่ามีผลสุด ๆ ยังไงซะใส่เต็มแน่ ๆ บอลมันส์ แถมได้ตังค์ ต้องมากับเดวิด ครับผมมม

Meball พรีเมียร์ลีก
เซาท์แฮมป์ตัน -vs- ลิเวอร์พูล

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

01/02/20 ลิเวอร์พูล ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 4-0
17/08/19 เซาท์แฮมป์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
06/04/19 เซาท์แฮมป์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3
22/09/18 ลิเวอร์พูล ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-0
12/02/18 เซาท์แฮมป์ตัน แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2

เซาท์แฮมป์ตัน

          เซาท์แฮมป์ตัน ของกุนซือ ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เพิ่งจะเปิดรังเจ๊าจืด เวสต์แฮม 0-0 ทำให้สี่เกมลีกหลังสุดยังไม่ชนะใคร สำหรับสภาพทีมวันนี้ จะได้ตัว แดนนี่ อิงส์ แนวรุกคนสำคัญสลัดอาการบาดเจ็บ กลับมาฟิตพร้อมประจำการได้อีกครั้ง นั่นหมายความว่า ยานนิค เวสเตอร์การ์ด เป็นเพียงรายเดียวที่ยังเดี้ยงไม่หายดี คาดว่า ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เตรียมจัดทัพในระบบเก่ง 4-4-2 โดยมี เช อดัมส์ กับ เชน ลอง ควงคู่ล่าสกอร์ในแดนหน้าและใช้ โอริออล โรเมอู กับ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ปักหลักคุมกลางตามระเบียบ

ลิเวอร์พูล

          ลิเวอร์พูล ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะบุกเจ๊า นิวคาสเซิ่ล 0-0 ทำให้สองเกมลีกหลังสุดไม่ชนะใคร สำหรับความพร้อมของทีมก่อนฟาดแข้ง ไม่มีรายงานตัวเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเพิ่มเติม นอกเสียจากเหล่าบรรดาแข้งเดี้ยงค้างสต๊อคตามลิสต์ด้านล่าง คาดว่า คล็อปป์ เตรียมจัดหนักในระบบการเล่น 4-3-3 โดยมี โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กับ ซาดิโอ มาเน่ เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์และใช้ ธิอาโก้ อัลคานตาร่า รับบทจอมทัพคอยคุมจังหวะในแดนกลาง

เซาท์แฮมป์ตัน (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็กคาร์ธี่ – ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, แยน เบ็ดนาเร็ค, แจ็ค สตีเฟ่นส์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ – สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, โอริออล โรเมอู, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, ธีโอ วัลค็อตต์ – เช อดัมส์, เชน ลอง

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ – เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, รีส วิลเลี่ยมส์, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ธิอาโก้ อัลคานตาร่า, จอร์จินิโอ้ ไวย์นัลดุม – โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่

ทรรศนะเดวิด พาRuay

น่าจะถึงเวลาของเหล่าสาวก “เดอะ ค็อปส์” ได้กลับมาผงาดอีกครั้งหลังผ่านพ้นปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งการจัดทัพหนนี้ดูท่าทางจะเอาจริงกว่าสองนัดที่ผ่านมาพอสมควร และคงไม่เหลือเวลาให้พลาดอีกแล้ว เนื่องจากรองจ่าฝูงอย่าง แมนฯยู ก็ไล่จี้มาติดๆ เหลือความต่างเพียงประตูได้-เสียเท่านั้น เช่นเดียวกันอันดับ 3-5 ที่จ่อกันอัดตูดกันมาติดๆ พร้อมแย่งชิงบัลลังก์แชมป์ทั้งนั้น อย่างไรก็ดีโจทย์อย่าง เซาท์แฮมป์ตัน ไม่ใช่งานลำบากเกินกว่าจะเก็บสามแต้ม หลังเจ้าบ้านเสีย ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ปราการหลังคนสำคัญที่เจ็บ แถมฟอร์มก็เริ่มออกทะเลต่อเนื่อง ด้วยการไร้ชัย 4 แมตช์ซ้อน (เสมอ 3, แพ้ 1)

Mescore: ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1

เจอร์เก้น คล็อปป์จะพาลูกทีมหนีปิศาจแดงได้สำเร็จ

Meball ลา ลีกา
บาเลนเซีย -vs- กาดิซ

ผลงานที่เคยพบกัน

23/12/11 บาเลนเซีย ชนะ กาดิซ 4-0
14/12/11 กาดิซ เสมอ บาเลนเซีย 0-0
16/08/09 กาดิซ ชนะ บาเลนเซีย 2-1
02/04/06 บาเลนเซีย ชนะ กาดิซ 5-3
20/11/05 กาดิซ แพ้ บาเลนเซีย 0-1

บาเลนเซีย

     สะกดชัยในลีกไม่จเอติดต่อกันมา 7 นัด ขณะที่ความพร้อม ยังไม่สามารถใช้งาน เยสเปอร์ ซิเลสเซ่น และ กาเบรียล เปาลิสต้า ซึ่งมีอาการบาดเจ็บ จึงต้องเลือกใช้บริการ ฆวนเม่ โดเมเน็ค เฝ้าเสาต่อไป เช่นเดียวกับแนวรับจะเป็น เอเลียควิม ม็องกาล่า ปักหลักกับ มุคตาร์ ดิกาบี้

นอกจากนั้นยังไม่มี กอนชาโล่ กูเอเดส กับ ฆาซอน สองกองกลางตัวหลัก ที่เจอโทษพักแข้งอีกต่างหาก อย่างไรก็ดีแนวรุกมีให้เลือกใช้งานครบมือ เตรียมส่ง มานู บาเยโฆ ล่าตาข่ายกับ มักซี่ โกเมซ ในระบบ 4-4-2

กาดิซ

     บาเลนเซีย (4-4-2) : ฆวนเม่ โดเมเน็ค – ดาเนียล วาสส์, เอเลียควิม ม็องกาล่า, มุคตาร์ ดิกาบี้, โฆเซ่ กาย่า – ยูนุส มูซาห์, คาร์ลอส โซเลร์, อูรอช ราชิช, เดนิส เชอรีเชฟ – มานู บาเยโฆ, มักซี่ โกเมซ

     ไม่มีตัวเจ็บเพิ่ม ยกเว้่นหน้าเดิมอย่าง ลุยส์มี่ เกซาด้า ซึ่งเดี้ยงอยู่ก่อนหน้า ส่วน ซัลบี้ กับ เซร์คิโอ กอนซาเลซ ก็ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เข้ามาสดๆร้อนๆ ต้องกักตัวตามระเบียบ ส่วนการจัดทัพคาดว่าจะเลือกส่งชุดหลักจากแมตช์เสมอ บายาโดลิด 0-0 แดนกลางมี เยนส์ จอนส์สัน ประสานงานกับ อเล็กซ์ เฟร์นานเดซ ปล่อยให้ แอนโธนี่ โลซาโน่ ล่าตาข่ายกับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ในระบบ 4-4-2

     กาดิซ (4-4-2) : เฆเรมิอาส เลเดสม่า – อิซ่า การ์เซเลน, ฟาลี่ ฆิเมเนซ, ฆวน กาลา,อัลฟอนโซ่ เอสปิโน่ – อเล็กซ์ เฟร์นานเดซ, เยนส์ จอนส์สัน, ฟาลี่, อัลแบร์โต้ เปเรอา – แอนโธนี่ โลซาโน่, อัลบาโร่ เนเกรโด้

ทรรศนะเดวิด พาRuay

กาดิซ เริ่มแผ่ว เมื่อแพ้เกมเยือนถึง 3 จาก 4 เกมหลัง ขณะที่ปัญหาหลักของ บาเลนเซีย คือขุมกำลังที่สลับกันหายหน้านับตั้งแต่ปรีซีซั่น อย่างไรก็ตามได้เล่นในบ้านก็น่าจะเห็นอะไรดีๆจากพวกเขา เหมือนอย่างเคยไล่ถล่ม เรอัล มาดริด 4-1 มาแล้ว

ประกอบกับสภาพทีมอาคันตุกะก็ไม่ดีไปกว่าเจ้าถิ่น โดยมีนักเตะตัวหลักติดโควิด-19 ถึง 2 ราย ถึงแม้สถิติในรังบาเลนเซียสะกดชัยเจอครั้งเดียวตลอด 5 เกมที่ผ่านมา ทว่าต้องผ่านคู่ต่อสู้หนักๆมาโดยตลอด จึงไม่แปลกที่ผลงานจะออกมาไม่สู้ดี ดังนั้นได้แก้ตัวในบ้าน เจอบอลคุณภาพไม่สูงนักอย่าง กาดิซ น่าเบียดชนะไปได้สำหรับ บาเลนเซีย

Mescore : บาเลนเซีย ชนะ 2-1

บาเลนเซียต้องการรวมพลังใจกันให้ได้

Meball โปรตุเกส
ปอร์ติโมเนนเซ่ -vs- ฟาเรนเซ่

ผลงานที่เคยพบกัน

27/02/16 ปอร์ติโมเนนเซ่ – ฟาเรนเซ่    1-0
30/09/15 ฟาเรนเซ่ – ปอร์ติโมเนนเซ่    1-2
01/03/15 ปอร์ติโมเนนเซ่ – ฟาเรนเซ่    1-1
21/09/14 ฟาเรนเซ่ – ปอร์ติโมเนนเซ่    1-0
22/12/13 ฟาเรนเซ่ – ปอร์ติโมเนนเซ่    2-1

ปอร์ติโมเนนเซ่

จะขาดแค่ลูคัส แฟร์นานเดส กองกลางตัวรุกที่เจ็บ ที่เหลืออยู่ในสภาพพร้อมลงเล่น

11 ตัวแรกนัดนี้น่าจะเปลี่ยนมาเล่น 4-3-3 มีอันแดร์สัน โอลิเวร่า (1 ประตู), ฟาบริซิโอ (2 ประตู) และไอล์ตัน เบา มอร์ต (1 ประตู 1 แอสซิสต์) เป็นสามประสานกองหน้า แดนกลางมีเดแนร์, ลูกินญาส และเปโดร ซา เป็นตัวทำเกม

ฟาเรนเซ่

เปโดร เอ็นริเก้ กองหน้าบราซิเลียน และดัลมา มิดฟิลด์ตัวรุกยังไม่หายเจ็บ ขณะที่ฟาบริซิโอ อิซิโดโร่ กองกลาง และเอดูอาร์โด้ มันชา กองหลัง ต้องรอทดสอบความฟิต หากหายลงเล่นไม่ทัน ฟิลิเป้ เมโล่ และริคาร์โด้ แฟร์เรร่า จะได้ลงแทน ตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับจะไม่มีอามีน อูดิรี่ ที่ติดโทษแบน น่าจะเป็นฟัลเกา ที่ได้ลงเล่นแทน

คาดทีมเยือนฟาเรนเซ่ จะมาในระบบ 4-2-3-1 มี บิเลล เอาเชเรีย (1 ประตู), ไรอัน โกลด์ (4 ประตู 4 แอสซิสต์) และไบรอัน มานซิย่า (1 ประตู) เป็นตัวทำเกมด้านหลังกองหน้าตัวเป้าอย่างนิโกล่า สตอยโควิช (1 ประตู)

ทรรศนะเดวิด พาRuay

ปอร์ติโมเนนเซ่ (11 นัด ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 7 ได้ 7 เสีย 14) ในลีกชนะได้แค่เกมเดียวใน 7 เกมหลัง (แพ้ 5) ขณะที่ในบ้านในลีกชนะได้แค่เกมเดียวใน 4 นัดหลัง (เสมอ 1 แพ้ 2)

ด้าน ฟาเรนเซ่ (11 นัด ชนะ 2 เสมอ 3 แพ้ 6 ได้ 12 เสีย 16) ในลีก 4 เกมหลังชนะนัดเดียว (เสมอ 1 แพ้ 2) ฟอร์มเยือน 5 นัดย่ำแย่ (เสมอ 1 แพ้ 4)

ตามฟอร์มแล้วน่าผิดหวังทั้งคู่ เกมล่าสุดปอร์ติโมเนนเซ่ สู้ได้ดีทีเดียวในการเจอกับเบนฟิก้า ที่ที่พวกเขาแพ้ไปหวุดหวิด ขณะที่ฟาเรนเซ่ แม้ช่วงหลังการเล่นดูดีขึ้น แต่ล่าสุดก็ทำได้แค่เสมอปากอส แฟร์เรร่า สองทีมคุณภาพการเล่นย่ำแย่ มีโอกาสที่จะกินกันไม่ลง

Mescore : ปอร์ติโมเนนเซ่ เสมอ 0-0

Facebook
Twitter
WhatsApp
Email

บทความที่เกี่ยวข้อง