ในยุคนี้เชื่อว่า หลาย ๆ ท่านน่าจะเติบโตมากับ ชัยชนะ ความดุดัน บอลออกข้าง การสวนกลับที่รวดเร็วและแม่นยำของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คุมโดยเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน
ในตอนนั้นทุกคนรู้ว่า แมนยู น่ากลัวแค่ไหน ซึ่งมันช่างแตกต่างกับแนวทางของทีมในปัจจุบัน หลังจากที่ เซอร์อเล็ก วางมือจากแมนยูไปในช่วงปี 2013 เราจะมาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
The choosen one ทายาทปิศาจแดง
แน่นอนหลังการวางมือ สิ่งที่น่าจับตาที่สุดของบอลอังกฤษ หรือทั้งวงการฟุตบอล ณ ขณะนั้นย่อมเป็น ตัวแทนของเซอร์อเล็ก ที่จะมาสานต่อความยิ่งใหญ่ของแมนยู และชายคนนั้นคือ เดวิด มอยส์ ผู้ถูกเรียกว่า “เดอะ ชูสเซ่น วัน”
เดวิด มอยส์เข้ามา ไม่ได้มาเปล่า เขาพา มารูยาน เฟลลายนี่ เป้าหมายของปิศาจแดงที่ตามจีบมานานนม มาด้วย โดยได้มาวันสุดท้ายก่อนตลาดปิด แต่การมาในครั้งนี้มันกลับไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย
เฟลลายนี่ ฟอร์มตก ทำอะไรก็ผิด เล่นยังไงก็พลาด แถมมอยส์เอง ก็ผิดพลาดในเรื่องของแทคติค โดยการนำบอลโยนยาวที่ติดมาจากเอฟเวอร์ตันตามมาด้วย โดยในบางเกมพวกเขามีโอกาสครอสบอลถึง 20-30 ครั้ง แต่ไม่เคยแปรเปลี่ยนเป็นประตูได้เลย
แม้ในช่วงมกราคม จะดึง ฮวน มานูเอล มาต้า จอมทัพเชลซีมาร่วมทีมได้สำเร็จ แต่การแพ้ ลิเวอร์พูลไปกลับแบบหมดรูป ไม่ชนะทีมใหญ่เลย ฟอร์มรูดลงมาอยู่กลางตาราง การดรอปวิลฟรีด ซาฮา เพียงเพราะดาวเตะไอเวอรี่ โคสต์ไปจีบลูกสาวของมอย์ และการทำทีมจบเพียงอันดับ 7 ทำให้มอยส์ อยู่กับ แมนยู ได้เพียง 7 เดือนเท่านั้น ก่อนจะถูกปลดออกไป
ปลุกตำนาน ด้วยตำนาน
หมดวาระของ เดวิด มอยส์ ไรอัน กิ๊ก เข้ามาขัดตาทัพ ก่อนที่ไม้จะถูกส่งต่อไปให้ หลุยส์ ฟาน กัล ตำนานกุนซือชาวดัตช์ ขอลองของกับบอลอังกฤษซักครั้งในชีวิต โดยก่อนเริ่มฤดูกาล เขาเพิ่งจะพาฮอลแลนด์ได้อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2014 แฟน ๆ แมนยู คาดหวังแน่นอน เพราะใครก็รู้ว่า ฟาน กัล นั้นของจริง แถมด้วยการมาของ เมมฟิส เดปาย สุดยอดดาวรุ่งแห่งยุคคนหนึ่ง และ อังเคล ดิ มาเรีย ผู้สวมใส่เบอร์ 7 คนใหม่
การคุมทีมของหลุยส์ ฟาน กัล ค่อนข้างที่จะสวิง ขึ้น ๆ ลง ๆ วันไหนพวกเขาเล่นดี ก็ดีใจหาย ตบลิเวอร์พูลแบบไป-กลับ แต่วันไหนจะแย่ ก้แย่สุดใจ แพ้เลสอตร์ ซิตี้ ไป 5-2 อย่างงี้
แต่สิ่งที่พวกเขาได้วิจารณ์มาที่สุด เห็นจะเป็น “ปรัชญาการเล่น” ของเขา ที่เน้นความปลอดภัยมากเกินไป เอะอะคืนหลัง เอะอะคืนผู้รักษาประตู บางเกม ดาบิด เด เคอา ได้บอลมากกว่ากองหน้าเสียด้วยซ้ำ
ไหนจะปัญหาการเล่นไม่ออกของเดปาย อังเคล ดิ มาเรีย ที่อยู่ ๆ ก็ฟอร์มตก ย้ายทีมมันดื้อ ๆ ในช่วงปิดฤดูกาล และฟัลเกา โคตรดาวยิง โคลอมเบีย ที่เหมือนคนเล่นบอลไม่เป็นเลย คือง่าย ๆ ว่า แมนยูซื้อใครมา ก็แย่ไปหมด ไม่มีอะไรดีซักอย่าง โดยผลงาน 2 ปี ของฟาน กัล คือการเอาชนะลิเวอร์พูล ปราบทีมใหญ่ แต่แพ้ทีมเล็ก เรียกว่า เป็นดรบินฮู้ดโดยแท้จริง แม้จะตบท้ายสวยงามด้วยถ้วยเอฟ เอ คัพ ในฤดูกาล 2015-2016 แต่สุดท้าย แมนยู สั่งปลด หลุยส์ ฟานกัล อยู่ดี
The special one
และแล้วก็ถึงเวลาของชายที่ทำให้วงการฟุตบอลอังกฤษ สั่นสะเทือน ชายที่เซอร์อเล็กบอกว่า เป็นแรงผลักดันให้เขาสร้าง แมน ฯ ยูไนเต็ด ชุดที่ดีที่สุดของเขาขึ้นมา ชายที่เรียกตัวเองว่า “The special one” โชเซ่ มูรินโญ่
อย่างที่รู้กันว่า เมื่อช่วงปี 2004-2007 บอลอังกฤษ สั่นสะเทือนเพราะชายที่ชื่อว่า โชเซ่ เขามีแท็กติคมากมาย แก้เกมเก่ง เป้นที่รักของลูกน้อง แต่ทีเด็ดของเขาคือวาจา และลีลาการตอบคำถามของเขา ที่พ่นอะไรออกมา ก็จะขึ้นหน้าหนึ่งเสมอ
คงต้องยอมรับว่า มูรินโญ่ ที่เข้ามาพร้อมกับ พอล ป็อกบา และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช พาแมนยูทำผลงานได้ดกีที่สุดนับแต่ตั้งเซอร์อเล็ก วางมือ ฤดูกาลแรกพาทีมจบอันดับ 2 พร้อมถ้วยเอฟเอ คัพ และ ยูโรป้า ลีก พาทีมกลับไปเล่นถ้วย ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ได้อีกครั้ง
มาถึงจุดนี้ทุกอย่างเหมือนจะดี ทีมมีทรง มีแชมป์ มีทุกอย่าง แถมได้โคตรกองหน้าของบอลอังกฤษตอนนั้น อย่าง โรเมโร ลูคากูมาเสริมทัพ ใคร ๆ ก็คิดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องติดปีก แต่มันดันกลายเป็นปีกหัก ภาพที่เราเห็น คือ แมนยู ที่บุกใครไม่เป็น เล่นแต่เกมรับ ยิงยังไงก็ไม่เข้า สร้างโอกาสทำประตูได้น้อยลง ห้องแต่งตัวเริ่มมีปัญหา และถูกตั้งคำถาม ลูคากู แม้จะยิงได้เรื่อย ๆ แต่ถูกตั้งคำถามกับฟอร์มโดยรวม ใช้โอกาสเปลือง ? จับบอลลั่น ? ขาดความแข็งแกร่งทั้งที่ตัวใหญ่ ?
จนสุดท้าย 2 ฤดูกาลครึ่ง หลังความพ่ายแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล 3-1 ในวันที่ 16 ธ.ค. 2018 โชเซ่ มูรินโญ่ พ้นวาระจากการเป็นผู้จัดทีมฟุตบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการถูกไล่ออก…
Babyface คนที่ใช่ซักที ?
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คือตำนานซุปเปอร์ซัพของทีม เขาคือคนที่เป็นตัวสำรองตลอดศก แต่ลุกขึ้นมายิงประตูได้แทบทุกครั้งที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา โดยเฉพาะเกมที่แมนยู ใช้เวลา 1 นาทีกว่า ๆ ยิง 2 ลูก แซงบาเยิน มิวนิค ในเกมนัดชิงถ้วย UCL ปี 1999 และโซลชาคนนี้คือคนที่ยิงประตูชัยให้กับทีม
หลังจาก มูรินโญ่ ลงจากตำแหน่งไป โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็เข้ามาคุมทีมขัดตาทัพ เพราะว่างจากการทำทีมโมลด์ ที่ลีกนอร์เวย์ อยู่ในช่วงเบรก และพ้นงานของเขากับครึ่งฤดูกาลของทีม มันดีเสียจนบอร์ดบริหารอดไม่ได้ที่ยื่นสัญญาถาวรให้
ครั้งนี้มันรู้สึกดีกว่าครั้งไหน สำหรับแฟน แมนยู ตำนานสโมสร ขวัญใจแฟนบอล ฟอร์มดี รูปแบบการเล่นคล้ายยุคเซอร์อเล็ก รวดเร็ว ดุดัน แม่นยำ ครีเอทีฟ
แต่แค่ช่วงพรี-ซีซั่น เหมือนจะเริ่มเห็นปัญหา เมื่อ โอเล่ อยากได้ตัวของ บรูโน่ แฟร์นันส์ แต่บอร์ดของแมนยู กลับไม่สามารถพาตัวมาได้ และสิ่งดี ๆ ที่เคยเห็นก่อหน้านี้ ก็มลายหายไปอย่างรวดเร็ว แมนยู ไม่ใช่เล่นไม่ดี แต่สิ่งที่ขาดหายคือความคงเส้นคงวา แม้มันจะกลับมาดีสุด ๆ ในช่วงมกราคม หลังได้ตัวบรูโน่ สมใจโอเล่ จนทำอันดับกลับมาจนจบอันดับ 4 และได้ไปเล่นถ้วย ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์
จนล่าสุดปัญหาเดิม ๆ บอร์ดแมนยู ไม่สามารถดึงนักเตะที่โอเล่อยากได้มาเสริมทีม และฟอร์มของทีมตอนนี้เรียกว่า ไม่ต่างอะไรกับทีมหนีตกชั้น ซึ่งคงต้องดูกันต่อไปว่า ปิศาจแดงจะเป็นอย่างไร เพราะข่าวหนาหูเหลือเกินสำหรับผู้สานต่อคนต่อไปของเซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน…
