“ถ้าวันนึงผมไม่อยากได้แชมป์ผมจะย้ายไปสเปอร์ส” วลีเด็ดมัดใจแฟนปืนใหญ่จาก เมซุต โอซิล
หลังถูกถามว่า มีโอกาสไหมที่จะย้ายไปอยู่ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ส คู่แข่งตลอดกาลของทีม
เมซุตโอซิล เป็นนักเตะที่แฟนบอลรักมาก ๆ และรอคอยให้เขาลงสนามอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่เคยได้รับโอกาสเลย นับตั้งแต่ยุคของ อูไน เอเมรี่ จนกระทั่งการมาของ มิเกล อาร์เตต้า ที่ดูแล้วโอกาสน่าจะสดใส แต่สุดท้ายยังต้องนั่งข้างสนาม รอโอกาสอยู่เช่นเดิม
กระนั้นเองโอซิลก็ยังชัดเจนว่าจะไม่ย้ายไปไหน และยังคงปรารถนาจะที่จะลงสนามให้กับไอ้ปืนใหญ่อยู่เสมอ
นั่นจึงเป็นคำถามว่า? ฤดูกาลนี้ เทพปรือที่แฟนบอลรู้จักจะสัมผัสเกมพรีเมียร์ลีก กับอาร์เซน่อลสักกี่เกม
และจากคำถามนี้เอง จึงเป็นที่มาของ 10 เหตุผลที่ Mebetc คิดว่าทำไม เมซุต โอซิล จะได้ลงเล่นในเกมพรีเมียร์ฤดูกาลนี้
1.ฟิตเต็มที่แล้ว หลังจากนั่งจนก้นด้าน อยู่บนม้านั่งสำรองมา 2 ฤดูกาลติดต่อกัน
จริงๆ แล้วมันอาจจะเป็นแผนการใหญ่ สำหรับการคัมแบคของอาร์เซน่อลก็ได้
เป็นแผนที่วางมาอย่างยาวนานเกือบ 3 ปี โดยการให้ เมซุต โอซิล จอมทัพตัวเก่งของพวกเขาได้พักผ่อน
นั่งดูเกมของคู่แข่ง เพื่อที่จะได้มีพลังงานเต็มที่ และเข้าใจจุดอ่อนของทุกทีมในพรีเมียร์ลีก
จากนั้นค่อยส่งลงมาผนึกกำลังกับ โอบาเมยัง ที่ฟอร์มเข้าฝัก วิลเลี่ยน นักเตะตัวเทพที่เลื้อยลีลามาวาดลวดลายกับทีม หรือเปเป้ ปีกความหวังที่กำลังดีวันดีคืน หากพวกเขา 3 คน ลงสนามเคียงคู่โอซิลแล้ว
จะช่วยให้จอมทัพรายนี้ที่ร่างกายฟิตเกินกว่า 200% และความเข้าใจเกมระดับ 300%
ลงมาทำลายล้างคู่แข่ง ยิงกระจายแบบ 150 ลูกใน 1 ฤดูกาล เอาให้เหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ที่ยิงเกิน 100 ลูกมา 3 ปีติดไปเลย
2.ติดเกมน้อยลงแล้ว หลังเกม Fortnite ได้รับการนิยมน้อยลงไป
อย่างที่รู้กันว่า โอซิลนั้นได้ผันตัวเองไปเป็นสตีมเมอร์ พาร์ทไทม์ในบางเวลา (อาจจะฟูลไทม์แล้วเพราะไม่ได้ลงสนามเลย) โดยการเล่น Battle Royale / Fantasy ยอดฮิตในเวลานั้นอย่าง Fortnite ผนวกกับที่ช่วงเวลานั้น ที่เจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บอย่างการเจ็บหลัง ทำให้หลายคนแซวกันว่า ที่เจ็บก็เพราะนั่งเล่นเกมนานเกินนี่แหละ! แต่ ณ ตอนนี้ Fortnite เสื่อมความนิยมลงไป โอซิลก็ดูจะเล่นเกมน้อยลงด้วย อาการบาดเจ็บหลังก็น่าจะทุเลาลงจากเหตุนี้ ? นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่เขาจะได้กลับมาลงสนามอีกครั้งหนึ่ง
3.ขยันซ้อมจน อาร์เตต้า เห็นใจ
ความเห็นอก เห็นใจไม่เคยเข้าใครออกใครฉันท์ใด ความขยันก็ไม่เข้าใครออกใครฉันท์นั้น
ในวันที่โอซิลเลิกเล่นเกม เขาก็กลับมาซ้อมอย่างเต็มที่ ไม่เคยบ่น ไม่เคยมีปากมีเสียง แถมสัมภาษณ์ทุกอย่างไปในเชิงบวกมีเหรอที่อาร์เตต้าจะไม่เห็น ทั้งรัก ทั้งทุ่มเทขนาดนี้ ได้เป็นตัวจริงแถมปลอกแขนกัปตันทีมไปเลย!
4.อาร์เซน่อลผลงานแย่อยู่ในขั้นวิกฤต อาร์เตต้าจึงต้องใช้โอซิล เพื่อกอบกู้
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ จริง ๆ แล้ว อาร์เตต้า อาจจะเล็งเห็นแล้วว่า ภาพลักษณ์ของโอซิลนั้นมันแย่
แล้วอาร์เตต้าอาจจะมองว่า ทีมในปีนี้อาจจะไม่ได้โชว์ฟอร์มที่ดีนัก อาจจะวิกฤตเลยก็ได้
และเมื่อถึงเวลานั้น พระเอกขี่ม้าขาวนามโอซิล ก็จะถูกลงสนามมาเพื่อกู้วกฤตให้กับทีม
พลิกจาก ซีโร่ เป็นฮีโร่ อย่างแท้จริง (ล้ำลึกสุด ๆ)
5.แฟนบอลบอยคอตไม่เข้าสนาม เพื่อเรียกร้องให้ฮีโร่ของพวกเขาได้ลงเล่น
เราอาจจะเห็นเหตุการณ์คว่ำบาตร บอยคอต วอล์คเอ้าท์กันมากมาย แต่ยังไม่เคยเห็นแฟนบอลไม่เข้าสนามเพราะไม่พอใจที่นักเตะระดับฮีโร่ของพวกเขาไม่ได้ลงสนาม ซึ่งหากเหล่ากูนเนอร์ส รวมตัวกันคว่ำบาตรสโมสรจริง ๆ บอกเลยงานนี้ บอร์ดของทีมคงกดดันสุด ๆ ก่อนที่จะบีบให้ อาร์เตต้า ส่งโอซิล ลงสนามได้แล้ว!!! ว่าแล้วไม่ทันขาดคำ เอมิเรตท์ สเตเดี้ยมก็ไม่มีคนเข้าสนามเลยซักคน อ่อ อะไรนะ ? อ๋อ ช่วงนี้มันติด Covid-19 นี่หว่า!
6.เจ้าของทีม ผู้จัดการทีม ประทับใจคำพูดของโอซิล
ด้วยความที่ เมซุต โอซิล นั้นรักอาร์เซน่อลมากอย่างที่กล่าวไปข้างต้น และการสัมภาษณ์ที่ผ่านมาเป็นเชิงบวกมาโดยตลอด แขวะสเปอร์สคู่รักคู่แค้นก็บ่อย นอกจากได้ใจแฟนบอลแล้ว มีหรอจะไมได้ใจบอร์ดบริหาร กับผู้จัดการทีม ปากหวานแบบนี้ เอาตัวจริงแบบการันตีถาวรไปเลย
7.วิ่งเยอะขึ้นระดับฮาล์ฟมาราธอนในสนามฟุตบอล
โดยเฉลี่ยแล้วนักฟุตบอลจะวิ่งต่อแมตประมาณ 10-11 กิโลเมตร แต่โอซิลนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นจอมขี้เกียดคนหนึ่งของวงการ การเคลื่อนที่น้อย ไม่ค่อยไล่บอล แม้จะแลกมากับคิลเลอร์พาส ที่หาไม่ได้จากที่ไหน แต่การวิ่งน้อยของเขามักจะถูกยกขึ้นมาเป็น topic บนโซเชี่ยล หรือตามหน้าสื่อต่าง ๆ เพราะฉะนั้นหากโอซิล อยากลงสนามจะต้องวิ่งมากกว่าค่าเฉลี่ย ในระดับฮาล์ฟมาราธอน หรือ เฉลี่ย 21 กิโลเมตรแต่เกมไปเลย รับรองได้เล่นครบทุกเกมแน่นอน ถ้าไม่ตายคาสนามไปซะก่อน
8.ย้ายไปอยู่กับทีมหนีตกชั้น
อยู่ทีมใหญ่ไม่ได้เล่น ไปอยู่กับทีมหนีตกชั้นได้เล่นแน่นอน เพราะคลาสบอลระดับนี้ บอกได้คำเดียวว่านี่คือ “เดอะแบก” ของทุกทีมที่เขาจะย้ายไปอยู่ แต่ไม่ใช่ที่นอร์ทลอนดอนฝั่งสีแดง
9.เป็นเฮดโค้ชซะเอง แล้วส่งตัวเองลงสนาม
ถ้าโค้ชไม่ให้ลงสนาม ก็ขึ้นไปเป็นเฮดโค้ชไปเลย จากนั้นก็ส่งตัวเองลงสนาม ยุคนี้สมัยนี้โค้ชที่ไม่มีไลเซนต์เยอะแยะไป แถมบารมีระดับโอซิล ลูกทีมย่อมเชื่อฟัง และจัดแทคติคให้เข้ากับการเล่นของตัวเองยังได้เลย ว่าแล้วก็บอกเหล่ากูนเนอร์กดดันบอร์ดให้ไล่ อาร์เตต้าออก แล้วตั้งตนเองคุมทีมซะ
10.ซื้อสโมสรเลย เป็นเจ้าของทีมจะทำอะไรก็ได้
โค้ชอาจจะเป็นคนกำหนดแทคติค เลือกตัวผู้เล่น ทิศทางของทีม แต่หากเป็นเจ้าของสโมสรโอซิลจะเป็นผู้กำหนดุกอย่างของสโมสร โค้ชคนไหนไม่ให้เขาลงสนามก็สั่งปลด หรือทำได้แม้แต่ซื้อใครก็ได้ที่เขาอยากเล่นด้วยให้มาอยู่กับสโมสร และบอกให้โค้ชส่งตัวเองลงสนามพร้อม ๆ กับดรีมทีมของตัวเองได้เลย!
จากเหตุผลทั้ง 10 ข้อเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของ Mebetc ที่อยากเห็นนักเตะในดวงใจลงเล่นอีกครั้ง แต่ความเป็นจริงเขาจะได้เล่นหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป ยังไงก็รอเชียร์อยู่นะ โอซิล . . .
