เชลซี เมนดี้ สิงห์บลู ผู้รักษาประตู.. และการสานต่อตำนาน ?

เชลซีและดราม่า

เมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว ได้มีเรื่องราวดราม่า ที่เรียกเสียงฮือฮา และถูกนำไปทำเป็นมีมไปทั่วโลกอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือเหตุการณ์นัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ในปี 2019 ระหว่าง เชลซี พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในขณะที่เกมกำลังเสมอกันอยุ่ และอยู่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ กำลังจะต้องดวลจุดโทษ 

เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือของเชลซี เวลานั้นได้ทำการส่ง วิลลี่ กาบาเยโร่ นายทวารมือ 2 ลงเฝ้าเสา เนื่องจากมีจุดเด่นในการเซฟจุดโทษ แต่ทว่า เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า มือ 1 ของทีมกลับปฏิเสธการเปลี่ยนตัว ทำเอาซาร์รี่ ฉุนขาด 

สุดท้าย เกป้า ก็ลงเฝ้าเสาให้เชลซี ในช่วงดวลจุดโทษ ผลปรากฎว่าเจ้าตัว ไม่เซฟมาเซฟจุดโทษให้เชลซีได้เลย ทำให้สิงห์บลูพ่ายไป 4-3 ในช่วงฎีกา และทำได้แค่รองแชมป์เท่านั้น

หลังจากนั้นมีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์มากมายส่งตรงมาถึง เกป้า และเชลซีก็ลงโทษด้วยการดรอปเขาให้เป็นตัวสำรองอยู่หลายเกมเลยทีเดียว 

เชลซีกับความอดทนที่หมดไป

จากเหตุการณ์นั้นเกป้า ก็ฟอร์มตกลงเรื่อย ๆ ด้วยความที่ยังเด็ก ประสบการณ์ยังน้อย รับความกดดันไม่ได้ ไหนจะมีข่าวเลิกกับแฟนอีก ซึ่งในช่วงนั้นดำเนินมาถึงปัจจุบัน เชลซีเก็บคลีนชีทได้น้อยมาก ทั้งที่ครั้งหนึ่งในยุคของ ปีเตอร์ เชค พวกเขาเคยเป็นเจ้าของสถิติเก้บชีทติดต่อกัน 10 นัด ในพรีเมียร์ลีก

ก่อนที่ล่าสุดเชลซีจะหมดอดทนกับ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า และนำเข้า เอดูอาร์ เมนดี้ มาจากฝรั่งเศส ก่อนที่จะโชว์ฟอร์มแบบที่ว่า เกป้า ต้องนั่งร้องไห้ โดยเฉพาะเกมที่ เชลซี บุกไปเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0

เมนดี้ มีชอตเซฟเว่อ ๆ ถึง 2 ครั้ง 2 ครา ก่อนที่จะเก็บคลีนชีทรัว ๆ มาจนถึงนัดล่าสุดที่ชนะแรนส์ ทีมเก่าของเจ้าตัว รวมเป็น 6 นัดเข้าไปแล้ว วันนี้เราเลยจะลงมาทำความรู้จักในตัวของ เอดูอาร์ เมนดี้ กันคร่าว ๆ ดีกว่า

เตะฝุ่น และความฝัน

เมนดี้ จริง ๆ แล้วมีเชื้อสายเซเนกัล แต่พ่อแม่ของเขาอพยพเข้ามาลงหลักปักฐานในฝรั่งเศสได้อย่างมั่นคง เป็นครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ไม่ได้ยากลำบากอะไร

แต่ชีวิตการค้าแข้งของเขาเริ่มจากทีมในลีกลำดับ 4 ของประเทศ ในวัย 19 ปี ในปี 2011 กับทีม AS Cherbourg และลงไปเล่นไปเพียง 25 เกมเท่านั้นใน 4 ปี

คือเรียกว่าอยู่ในดิวิชั่น 4 แล้วยังไม่ได้ลงสนามก็แทบจะหมดอนาคตในวงการฟุตบอลไปแล้ว และแน่นอนเขาต้องอยู่ในสถานะตกงานในวัย 22 ปี และต้องพึ่งพาศูนย์คนว่างงานประจำเมือง

ซึ่ง ณ จุดนั้น หลายคนยอมที่จะทิ้งความฝันเลิกเป็นนักฟุตบอล และกลับไปทำงานทั่วไป แต่มือ 1 ของเชลซีไม่ยอมแพ้ เขาได้โอกาสเซ็นสัญญากับ Le Havre ac ทีมในระดับลีกเดอซ์ หรือ ดิวิชั่น 2 ของฝรั่งเศส

แต่กระนั้นทีมก็ไม่ได้ลงทะเบียนชื่อเจ้าตัวในการแข่งขันลีกเดอซ์ แต่อย่างใด เมนดี้ ต้องซ้อมไปวัน ๆ อยู่ 1 ปี เต็ม ก่อนที่จะมีข้อเสนอจากทีมสำรองของ โอลิมปิค มาร์กเซยเข้ามาและเขาตอบรับมันทันที

ที่มาร์กเซย เมนดี้ ก้าวไปอีกระดับ เขาพัฒนาขึ้น แม้โอกาสในการลงสนามจะยังน้อยมาก ๆ แต่เขาไม่เคยหยุดซ้อมจนในที่สุด แรงส์ ทีมจากลีกเดอซ์ ณ ตอนนั้น ก็ยื่นสัญญษอาชีพฉบับแรกในชีวิตให้กับเขา 

เมนดี้ รีบเก็บกระเป๋าจากมาร์กเซย สู่ แรงส์ในปี 2016 โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าที่แห่งนี้เองจะเป็นจุดเริ่มต้นของที่ทำให้เขามีค่าตัวกว่า 22 ล้านยูโร ในการย้ายไปสู่เชลซี 

เชลซีกับผู้รักษาประตู

แม้ในปีแรกจะเป็นแค่มือ 2 แต่เขาได้เติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป เขามีความหวัง มีความสุข และคนที่อดทน ต่อสู้ พยายามก็ได้สิ่งตอบแทน เมื่อปีต่อมา โยฮันน์ คาร์ราซโซ่ ย้ายออกจากทีมไป

เมนดี้ ก้าวขึ้นไปเป็นมือ 1 และไม่เคยทำให้ทีมที่ให้โอกาสเขาผิดหวัง 3 คลีนชีทจาก 7 นัดแรก พร้อมฟอร์มการเซฟแบบที่เรียกว่า “ปิศาจ” ก็ไม่ปาน 

เขาพา แรนส์ขึ้นสู่ลีกเอง ลงสนามเป็นตัวจริงทุกนัด พาทีมรอดตกชั้นและจบสูงถึง อันดับ 8 เสียไปเพียง 42 ประตูในฤดูกาล 2018-2019 ด้วยฟอร์มระดับนี้ทีมที่ใหญ่กว่าเริ่มจะสนใจในตัวเขา

และสุดท้ายเป็นแรนส์ (Rennes) ที่จ่ายให้ แรงส์ 3.5 ล้านปอนด์ พาเมนดี้มาลงสนาม 28 นัด ก่อนจะถูกตัดจบเพราะ Covid-19 เสียไป 24 ประตู และจบที่อันดับ 3 ได้ตั๋วไปลุย ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์

เวลาเดียวกันนั้นเองที่ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ สโมสรเชลซี กำลังมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่ ที่อุ่นใจกว่าคนเดิม และหากมองย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อน เชลซีเคยซื้อตำนานผู้รักษาประตูของพวกเขามาจากแรนส์เช่นกัน ชายคนนั้นคือปีเตอร์ เชค ผู้เป็นประธานเทคนิค ของสโมสรอยู่ในตอนนี้

และด้วยสถิติการเซฟประตูที่สูงถึง 78.4 % (อันดับ 3 ของลีกเอิง) ทำให้ค่าตัวกว่า 22 ล้านปอนด์นั้นถูกลงไปมากโข และการเข้ามาของเมนดี้ ทำให้เชลซีมีการป้องกันลูกกลางอากาศที่ดีขึ้น ด้วยสถิติการคว้าลูกครอสจากริมเส้น ที่มากกว่า ตีโบต์ กูร์กตัวส์ หรือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ และแยน โอบลัค เสียอีก

จากคนตกงาน สู่ทีมสำรอง เป็นโกลมือ 2 พัฒนาจากพาทีมขึ้นสู่ลีกสูงสุด วันนี้ เอดูอาร์ เมนดี้ ก้าวขึ้นมาสู่มือ 1 ของ เชลซี หนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก เพื่อสานต่อตำนานของปีเตอร์ เชค เรื่องราวจะจะเป็นอย่างไรต่อไป มีแค่เขาที่กำหนดเอง และเราทำได้เพียงแค่ติดตาม…