สารบัญ
ข่าวพาดหน้า 1! ดาบิด ซิลบา อดีตเพลงแข้ง นักเตะที่เคยอยู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตรวจพบ โควิด19 หลังจากก้าวเท้าออกจาก “เรือใบสีฟ้า” ไปหา “ลา เรอัล” ได้ไม่ทันถึงขอบสนาม ก็ทำทั้งทีมซวย! พากันวุ่นตรวจเชื้อกันไปหมด ซวยแบบตุยเย่ วาตานาเบ้ ไอโกะ!
ข่าวนั้นที่ว่าช็อกแล้ว ก็ยังไม่ช็อกเท่า ข่าวล่าสุด! ที่ แมนฯซิดี้ พึ่งประกาศศึก! แย่งชิงราชันย์แห่งบัลลังค์ลูกหนัง “ลิโอเนล เมสซี” ด้วยการทุ่มเงินก้อนโตกว่า 450 ล้านปอนด์ (ประมาณ 18,600 ล้านบาท) พร้อมสัญญา 5 ปี!
อีกทั้ง! สโมสรจะจ่ายโบนัสให้กับเมสซี เป็นเงินก้อนโตจำนวน 225 ล้านปอนด์ ทันที! ที่เจ้าตัวอยู่กับทีมจนครบ 3 ปีแรก ขอบอกว่าตีเป็นเงินไทยว่า 9,300 ล้านบาท เลยทีเดียว! โอ้แม่เจ้า!
นาทีนี้! ถึงแม้ทีมไหนจะปลดนักเตะ ทีมไหนจะเจ๊ง แต่แมนฯซิดี้ไม่มีวันเจ๊งนะ รู้ยังว่า รวยมากขอบอก! เศรษฐีเรียกพี่!
วันนี้ Mebetc จะพาออกเดินทาง! ไปส่องดูประวัติทีมอภิมหาเศรษฐี “เรือใบสีฟ้า” เจ้ามหาสมุทรแห่งเกาะอังกฤษ กันดีกว่า! ไปดูกันว่าต้นกำเนิดของพวกเขามาจากไหน ใครเป็นผู้ก่อตั้ง และไต่เต้ายังไงมา กว่าจะมาจุดที่รวย จนซื้อมนุษย์ต่างดาว เมสซี่ มาเตะได้!
ทำเนียบเรือใบสีฟ้า
คนทั่วโลกรู้จักกันดี! ว่าแมนฯซิตี้ เป็นเจ้าของ สถิติสูงสุดในพรีเมียร์ลีก! แต่ทราบไหมว่า กว่าที่ได้ชื่อสุดจ๊าบอย่าง “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ในปี 1894 ก่อนหน้านี้ สโมสรแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ก่อตั้งขึ้น โดยใช้ชื่อว่า เซนต์มากส์ (เวสต์กอร์ตัน) ในปี 1880 และต่อมาค่อยเปลี่ยนเป็น สโมสรฟุตบอลอาร์ดวิก ในปี 1887 และค่อยมาเป็นชื่อในปัจจุบัน!
จุดเริ่มต้นในการต่อเรือ…
“1880” เป็นปีที่สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อตั้งขึ้น! โดยตอนแรกมีแอนนา คอนเนลล์ และ ผู้ดูแลโบสถ์ เซนต์มากส์ อีก 2 คน เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง โดยแรกเริ่ม อยู่ทางตะวันออกของเมือง แมนเชสเตอร์ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ในย่าน ไฮด์ โรด ของเมืองอาร์ดวิก (ใกล้กับแมนเชสเตอร์) ได้เริ่มเข้าร่วมลีกฟุตบอลอังกฤษ ในระดับดิวิชัน 2 ในปี 1892
เรือเกือบอัปปาง!
“1893 – 1894” ใครจะรู้! ก่อนที่จะเป็นอภิมหาเศรษฐี อาร์ดวิกเอเอฟซี เคยเกิดวิกฤต! ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก จึงต้องเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารครั้งใหญ่ สุดท้ายได้ข้อสรุปคือการเปลี่ยนมาเป็น “ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอลคลับ” และดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ตั้งเสากระโดงเรือใหม่!
“1899” เป็นจุดเริ่นต้น ของความยิ่งใหญ่! เรือใบสีฟ้า สามารถคว้าแชมป์ ฟุตบอลลีกดิวิชัน 2 ของอังกฤษ ได้สำเร็จ! ซึ่งเป็นแชมป์แรกของพวกเขา พร้อมกับตบเท้าเลื่อนชั้นขึ้นสู่ ดิวิชัน 1 ลีกสูงสุดของอังกฤษโดยทันที! อีกทั้งยังคว้าแชมป์เอฟเอคัพ ครั้งแรกในปี 1904 อีกด้วย! เรือลำนี้เร็วสุด หยุดไม่อยู่แล้ว!
ขุมทรัพย์แห่งกองทัพเรือ…
“1920” เป็นปีที่พวกเขาถูกพายุโหมกระหน่ำ แต่กระนั้นเมื่อผ่านไปได้ พวกเขาก็ได้พบกับเกาะสมบัติ! เมื่อพบว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่สนาม “ไฮด์โรด” รังเหย้าของทีม ทำให้อัฒจันทร์หลักเสียหาย ต้องย้ายไปใช้สนามใหม่ “เมนโรด” เป็นสนามเหย้าในปี 1923 หลักจากนั้นเรื่อยมา อะไร ๆ ก็ดีขึ้น ฟ้าก็สดใส ลมก็เป็นใจ!
“2003” ผ่านไป 80 ปี สุดท้าย ก็ต้องมาย้ายฐานทัพอีกแล้ว คราวนี้ย้ายไป “เอติฮัดสเตเดี้ยม” ซึ่งเป็นรังเหย้า ที่ใช้มาจนปัจจุบัน มีอัฒจันทร์มีความจุอยู่ที่ 48,000 ที่นั่ง ถึงแม้ว่าจะต้องทุ่มเงินกว่า 35 ล้านปอนด์ ในการปรับปรุง และเช่าพื้นที่เรื่อยมากว่า 250 ปี แต่กลับกลายว่าสถานที่นี้ คือสถานที่ทำเงินให้พวกเขา กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีมาจนทุกวันนี้!
เรือใบสีฟ้าพร้อมออกจากฝั่ง!
“2011-2012” เป็นช่วงปีที่ แมนฯซิตี้ เรืองอำนาจ! พวกเขาทำผลงานได้ดีเยี่ยม ขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่งตั้งแต่เปิดฤดูกาล ถึงแม้ว่าจะเจออุปสรรค์ มีศัตรูตัวฉกาจอย่าง แมนฯ ยู คอยขัดขวาง แต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2012 ที่เป็นการแข่งขันนัดสุดท้าย ทั้งคู่มี 89 คะแนนเท่ากัน แต่สุดท้ายผลต่างของประตูได้เสีย แมนฯซิตี้ ทำได้ดีกว่าถึง 8 ลูก
โดยการแข่งนัดนั้น เรือใบสีฟ้า ต้องเจอกับ ควีนปาร์คแรนเจอส์ ที่ เอติฮัดสเตเดี้ยม ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องไปเยือน ซันเดอร์แลนด์! ทั้งสองต้องการชนะทั้งคู่ แต่ผลปรากฎว่า… ทาง แมนฯ ยู ชนะอย่างชิว ๆ ไป 0-1 ส่วน แมนฯ ซิตี้ นั้นลุ้นสายตัวแทบขาด! ทีมเยือนขึ้นนำไป 1-2 ในนาทีที่ 60 จนกระทั่งถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ… แมนฯ ซิตี้ พลิกกลับขึ้นมานำ ในนาทีที่ 91 และ 94 ได้อย่างบ้าคลั่ง! จบเกมเป็นชนะไป 3-2 และคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ไปครอง! หลังจากรอมาเนิ่นนานถึง 44 ปี!
“2013-2014” เป็นยุคที่เรือใบสีฟ้า ถึงคุมหางเสือโดยโค้ช “มานูเอล เปเลกรินิ” เขาสามารถนำเรือ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ! ส่งผลให้พาทีม เข้ารอบลึกถึงรอบรองฯ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้เป็นครั้งแรกของสโมสร ได้ใน ฤดูกาล 2015/2016
เรือใบสีฟ้ากวาดรางวัล!
หลังจากที่เรา ได้ไปรู้จักกับประวัติของ แมนฯซิตี้ กันพอหอมปากหอมคอแล้ว ต่อไปเรามาดูกันว่า ที่ผ่านมาทั้งหมด แมนฯซิตี้ ได้คว้ารางวัลในประเทศและนอกประเทศ อะไรไปบ้าง!
ระดับประเทศ
- ดิวิชันหนึ่ง / พรีเมียร์ลีก
ชนะเลิศ 6 : 1936–37, 1967–68, 2011–12, 2013–14, 2017–18, 2018–19
- ดิวิชันสอง / อีเอฟแอลแชมเปียนชิป
ชนะเลิศ 7 : 1898–99, 1902–03, 1909–10, 1927–28, 1946–47, 1965–66, 2001–02
- ลีกวัน
ชนะเลิศ 1 : เพลย์ออฟ 1998–99
- เอฟเอคัพ
ชนะเลิศ 6 : 1903–04, 1933–34, 1955–56, 1968–69, 2010–11, 2018–19
- อีเอฟแอลคัพ
ชนะเลิศ 7 : 1969–70, 1975–76, 2013–14, 2015–16, 2017–18, 2018–19, 2019–20
- แชริตีชีลด์/เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์
ชนะเลิศ 6 : 1937, 1968, 1972, 2012, 2018, 2019
ระดับทวีปยุโรป
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
รอบรองชนะเลิศ 1 : 2015–16
- ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ
ชนะเลิศ 1 : 1969–70
นักเตะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ฤดูกาลหน้า 2020/2021
หลังจากได้ไปดูต้นกำเนิด และผลงานงานทีมแล้ว ต่อไปเรามาดูกันว่า แผนแมนซิตี้ล่าสุด ในฤดูกาลใหม่นี้ พวกเขาจะดึงใครลงเตะบ้าง!
แน่นอนว่า นอกจากทีมอภิมหาเศรษฐี จะเตรียมทุ่มซื้อตัว ลิโอเนล เมสซี่ มาช่วยพะยุงเพื่อน ๆ และทีมให้ไปคว้าแชมป์ในฤดูกาลหน้าแล้ว เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็ยังเตรียมวางแผนสู้ศึกฤดูกาลใหม่ ด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม!
สรุปส่งท้าย!
สำหรับคนที่ชอบอ่านสั้น ๆ! แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นสโมสรประจำเมืองแมนเชสเตอร์ ก่อตั้งครั้งแรกในปี 1880 ใช้ชื่อเดิมว่า “เซนต์มากส์” (เวสต์กอร์ตัน) และต่อมาค่อยเปลี่ยนเป็น “สโมสรฟุตบอลอาร์ดวิก” ในปี 1887 และค่อยเปลี่ยนมาใช้ชื่อเด็ดกว่าคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขานั่งเรือผ่านร้อนผ่านหนาวกันมามาก! เคยเกิดเหตุไฟไหม้สนาม จนต้องระเห็จระเหเร่ร่อน ไปหาสนามใหม่ กว่าจะขึ้นมายิ่งใหญ่ คว้า แชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษได้ในช่วงปี 2011-2012
ในฤดูกาลหน้า 2020-21 นี้! กำลังจะเกิดเรื่องตื่นเต้นขึ้น เรือใบสีฟ้า เตรียมรับนักเตะจากต่างดาว ลิโอเนล เมสซี่ มาร่วมทีม! ทุ่มเงินไปมากถึง 450 ล้าน! พร้อมเซ็นสัญญาระยาว 5 ปี มาดูกันซิว่า เมสซี่ จะยอมรับคำชวนมาขึ้นเรือใบ ไปล่องเรือแห่งมหาขุมทรัพย์มั้ย! ติดตามอ่านข่าวสารได้ที่ Mebetc!