กว่าจะมาเป็น ” ราชันชุดขาว ” ที่สร้าง 5 ตำนานขุนพลนักเตะแห่งราชัน

หากจะเอ่ยถึงทีมฟุตบอลสักชื่อหนึ่งหนึ่งในนั้นต้องมี Real Madrid Club de Fútbol หรือที่รู้จักกันในชื่อ เรอัล มาดริด หรือ ราชันชุดขาว สโมสรฟุตบอลอาชีพยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของประเทศสเปน และยังเป็นสโมสรเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี

เป็นทีมฟุตบอลทีมหนึ่งที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน ด้วยดีกรี แชมป์ลาลีก้า 34 สมัย, แชมป์ โกปา เดล เรย์ 19 สมัย แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 13 สมัย และและยูฟ่าคัพ 2 สมัย

ทำให้ เรอัล มาดริด เป็นทีมในฝันของบรรดานักเตะมากมายต้องการเข้าร่วมทีม เพราะได้สร้างนักเตะที่มีชื่อเสียงระดับตำนานมากมาย แต่ก่อนที่จะสร้างนักเตะตำนานได้นั้น พี่จะพาไปูเส้นทางกว่าจะมาเป็น เรอัล มาดริด นั้นต้องผ่านอะไรมาบ้าง เพราะทุกเส้นทางของความสำเร็จไม่ได้โรยด้วยกลับกุหลาบเสมอไป

สโมสรฟุตบอล เรอัล มาดริด ( ราชันชุดขาว )

ก่อตั้งเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1902 ซึ่งในตอนนั้นมีฆวน ปาโดรส เป็นประธาน หลังจากที่เพิ่งก่อตั้งได้สามปี เรอัล มาดริดโชว์เก๋า ในปี 1905 สามารถคว้าแชมป์การแข่งขันได้เป็นครั้งแรกหลังจากเอาชนะอัตเลติกเดบิลบาโอไปในการแข่งขันสแปนิชคัพรอบชิงชนะเลิศ

ต่อมาในปี 1912 ได้มีการเปิดใช้สนามของตนเองเป็นครั้งแรกที่ “กัมโปเดโอโดเนล” ต่อมาในปี 1920 พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 13 แห่งสเปน ได้พระราชทานตำแหน่ง “เรอัล” ให้กับสโมสร ตั้งแต่นั้นมาจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น เรอัลมาดริด (Real Madrid)

แต่วันที่ 14 เมษายน ค.ศ. 1931 สเปนได้มีการเปลี่ยนแปลการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐ เรอัลมาดริดจึงต้องเปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อสโมสรฟุตบอลมาดริดตามเดิม แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังคงติดกับชื่อเรียกเดิมมาจนถึงทุกวันนี้

ซานเตียโก เบร์นาเบว สนามเหย้าราชันชุดขาว

เมื่อ ซานเตียโก เบร์นาเบว เยสเต ได้เข้ามารั้งตำแหน่งประธานของสโมสรเรอัลมาดริดในปี ค.ศ. 1945 เขาได้ทุ่มทุนสร้างสนามใหม่ และเปิดใช้สนามอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเดือนธันวาคม 1947 ในครั้งนั้นสามารถจุคนได้ถึง 120,000

หลังจากนั้นในปี 1998/99 ตามกฎของยูฟ่าไม่ให้มีการยืนชมการแข่งขันในขณะที่มีการแข่งขันในรายการของยูฟ่า ทำให้ตั๋วยืนได้ถูกยกเลิกไป ล่าสุดมีที่นั่งรวมเป็น 80,400 ที่นั่ง

นอกจากนี้ยังเป็นสนามฟุตบอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่งจึงทำให้ถูกคัดเลือกให้เป็นสนามรอบชิงชนะเลิศของยูโรเปียนคัพ ถึง 3 ครั้ง ปีค.ศ. 1957, ค.ศ. 1969 และ ค.ศ. 1980 ยูโรเปียนแชมเปียนชิพรองชิงชนะเลิศในปี ค.ศ. 1964 และฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศในปี ค.ศ. 1982

ที่มาของชื่อ ราชันชุดขาว

สำหรับฉายาของสโมสรนั้น ด้รับฉายาเป็นภาษาสเปนว่า ลอส บลังโกส ซึ่งหมายถึงสีขาว เนื่องจากในช่วงนั้นเข้าแข่งขันด้วยการสวมชุดแข่งเป็นสีขาวและประสบความสำเร็จอย่างมากในยุคนั้น จึงเป็นที่มาของราชันชุดขาวนั่นเอง

ผลงานของทีม ราชันชุดขาว

สำหรับเรอัล มาดริด นั้นมีผลงานได้แชมป์มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสโมรเลยที่เดียว ซึ่งมีประสบความสำเร็จอย่างมาก จนสามารถที่จะสร้างชื่อสโมสรให้ผู้คนได้รู้จักเป็นอย่างดี ผลงานของสโมสรนี้มีมากจนสามารถที่จะสร้างห้องเก็บของราวัวไว้โชว์ผลงานเพื่อเป็นเกียรติประวัติของสโมสรได้เลย โดยผลงานมีดังนี้

ถ้วยภายในประเทศ

  • ลา ลีกา สเปน : ได้แชมป์ 34 สมัย และ รองแชมป์ 22 สมัย :
  • โกปาเดลเรย์ : ชนะเลิศ 19 สมัย และรองชนะเลิศ 20 สมัย
  • ซูเปร์โกปาเดเอสปาญา : ชนะเลิศ 9 สมัย แลัะรองชนะเลิศ 5 สมัย
  • โกปาเอบาดัวร์เต : ชนะเลิศ 1 สมัย และรองชนะเลิศ 1 สมัย : ปี ค.ศ.1983
  • โกปาเดลาลีกา : ชนะเลิศ 1 สมัย : ปี ค.ศ.1985 และ รองชนะเลิศ 1 สมัย

ถ้วยในทวีปยุโรป

  • ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก : ชนะเลิศ 12 สมัย และรองชนะเลิศ 3 สมัย
  • ยูโรเปียนวินเนอร์สคัพ : ชนะเลิศ 2 สมัย :
  • ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ : รองชนะเลิศ 2 สมัย
  • ยูฟ่าซูเปอร์คัพ : ชนะเลิศ 3 สมัย : ปี ค.ศ.2002 , 2014 , 2016 และรองชนะเลิศ 2 สมัย

ถ้วยระดับโลก

  • ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ (Predecessor to the FIFA Club World Cup) : ชนะเลิศ 5 สมัย และ รองชนะเลิศ 2 สมัย : ปี ค.ศ.1966 , 2000

ตราสโมสร เรอัลมาดริด ( ราชันชุดขาว )

ตราสโมสรได้มีการใช้ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1920 เป็นตราที่ดูเรียบง่าย โดยการใช้อักษรด้วยกันทั้งหมดเพียงแค่ 3 ตัว คือ “MCF” ย่อมาจาก Madrid Club de Fútbol

หลังจากนั้นในปี ค.ศ.1908 ได้มีการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์โดยการนำตัวอักษรย่อทั้ง 3 มาจัดเรียงให้อยู่ในวงกลม และใช้ตรานี้มาอย่างยาวนาน

จนถึงปี 1920 ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง ด้วยการนำมงกุฎกษัตริย์อัลฟองโซที่ 13 มาไว้บนตัวหนังสือ เป็นโลโก้ทีม มงกุฎกษัตริย์อัลฟองโซที่ 13 มาไว้บนตัวหนังสือ เพราะในช่วงนี้สโมสรและทีมก็ได้รับการอุปถัมภ์จากกษัตริย์

ในปี ค.ศ.1931 เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองอีกครั้งจึงทำให้นำเอามงกุฎกษัตริย์ออก โดยเพิ่มสีทองให้กับตัวหนังสือและมีการเพิ่มแถบสีม่วง

ผ่านมาได้ 10 ปี ในปีค.ศ.1941 ได้มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง โดยการเอามงกุฎกษัตริย์กลับเข้ามาใช้ อีกทั้งยังจัดการกับแถบสีม่วงให้กลายเป็นสีม่วงอ่อนจนกลายเป็นสีน้ำเงินจางๆ

5 ตำนาน ราชันชุดขาว

ด้วยเป็นสโมสรที่มีความเก่าแก่ และมีชื่อเสียงที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จึงทำให้ ราชันชุดขาว จึงเป็นทีมยิ่งใหญ่ที่เป็นความฝันของ Super Star หลายคน ละทำให้มีนักเตะที่มีชื่อเสียงระดับตำนานเคยมาเล่นให้กับทีมมากมาย จะยกมา 5 นักเตะในตำนานจริง ๆ ที่เลิกเล่นไปแล้วส่งไม้ต่อกันมาเป็นทอด ๆ มีดังนี้

5.เฟอร์นันโด เอียร์โร (Fernando Hierro)

ยอดนักเตะกองหลังระดับตำนานของ เรอัล มาดริด เป็นกองหลังที่สูงใหญ่ เล่นลูกกลางอากาศได้ดี และ Sense บอลที่สูง เคยช่วยให้ทีมคว้าแชมป์มาอย่างมากมาย ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 3 สมัย แชมป์ลีกลาลีก้า 5 สมัย เป็นต้น แถมยังเคยเป็นอดีตโค้ชทีมชาติสเปนในชุดลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 อีกด้วย

4.โรนัลดู ลูอีส นาซารีอู จี ลีมา(โรนัลโด้ (R9))

เป็นนักเตะที่เข้าใกล้กับคำว่า “กองหน้าสมบรูณ์แบบ” เพราะด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ แข็งแรง มีความเร้วในการเคลื่อนที่สูง การยิงประตูที่คมกริบ และมี Vision ในการเล่นกองหน้าที่ยอดเยี่ยม แต่เสีอย่างเดียวคือมีอาการบาดเจ็บรบกวนบ่อยมาก แต่ก็ยังฝากผลงานไว้ อาทิเช่น แชมป์ลาลีก้า 2 สมัย และอีกหนึ่งรางวัลส่วนตัว อย่าง บัลลงดอร์ในปี 2002

3.เฟเรนซ์ ปุสกัส (Ferenc Puskás)

นักเตะตำนานกองหน้าทีมชาติฮังการี ที่มาสร้างเกียรติประวัติให้กับเรอัล มาดริดตั้งแต่ในยุค 60s ด้วยการคว้าถ้วยมากมาย เช่น 3 แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพวินเนอร์คัพ (ปัจจุบัน UCL) และ 5 แชมป์ ลาลีก้ารวด ตั้งแต่ฤดูกาล 1960-1964 และชื่อของเขายังถูกยกย่องและนำไปใช้เป็นชื่อรางวัล ปุสกัส อวอร์ด

2.อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน (Alfredo di Stéfano)

เป็นตำนานกองหน้าที่สร้างสถิติการยิงประตูต่อเกมมากที่สุด ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะมาทำลายลง โดยเขายังเป็นกำลังสำคัญของทัพราชันชุดขาว กวาดถ้วยแชมป์มากมายในยุค 50’s-60’s ทั้ง แชมป์ยูโรเปี้ยนคัพวินเนอร์คัพ (ปัจจุบัน UCL) 3 สมัย และ แชมป์ ลาลีก้า 8 สมัย

1.ราอูล กอนซาเลซ (Raul Gonzalez)

นักเตะกองหน้าที่เป็นขวัญใจและเป็นที่รัก ความภูมิใจของแฟน ๆ เรอัล มาดริด มากที่สุด เจ้าของฉายา “เบอร์ 7 ตลอดกาล” ด้วยเพราะเขาได้เติบโตมาจากระบบเยาวชนของสโมสร และยังเป็นเจ้าของสถิติยิงมากที่สุดตลอดฤดูกาลของเรอัล มาดริด

ก่อนที่จะโดน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำลายลงเช่นกัน พาทีมกวาดแชมป์อย่าง ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีก 3 สมัย แชมป์ลีกลาลีก้า 6 สมัย ก่อนที่จะส่งไม้ต่อเสื้อเบอร์ 7 ให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

สรุป

กว่าจะมาเป็นเรอัล มาดริด (ราชันชุดขาว) ที่เป็นสโมสรเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นสโมสรยักษ์ที่มีแฟนคลับติดตามอย่างมากมาย ล่าสุดยังคว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน ฤดูกาล 2019-2020 สมัยที่ 34 ได้อีก และหลังจากนี้ทัพราชันชุดขาวได้เสีย แกเร็ธ เบล กำลังสำคัญ(ถึงช่วงหลัง ๆ จะฟอร์มตกไปหน่อยก็เถอะ) กลับไปซบบ้านเก่าอย่าง สเปอร์ จะส่งผลกับทีมมากน้อยแค่ไหนมาดูกัน สามารถตืดตามดูบทความดี ๆ อัพเดทกันทุกวันได้ที่ Medetc

Facebook
Twitter
WhatsApp
Email

บทความที่เกี่ยวข้อง